เอเอฟพี - ประธานาธิบดีหู จิ่นเทาของจีน (6 ธ.ค.) กระตุ้นให้ทัพเรือของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน เตรียมพร้อมทหารเพื่อการสงคราม ท่ามกลางกระแสตึงเครียดข้อพิพาททางทะเล หลังจากสหรัฐฯ คำรามลั่นว่าจะเข้ามาใหญ่ในแปซิฟิก
“ทัพเรือจีนควรจะเร่งปรับปรุงและสร้างความทันสมัยให้เกิดความแข็งแกร่ง พร้อมกันนั้นก็ต้องขยายการเตรียมกำลังสงคราม เพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐไปพร้อมกัน” หูแถลง
หูได้ประกาศในการประชุมคณะกรรมาธิการทหาร ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ ว่า “งานของเราก็คือต้องครอบคลุมรอบคอบ ต้องป้องกันประเทศและสร้างกองทัพสมัยใหม่เป็นสำคัญ”
ความเห็นของหู นำมาโพสต์ไว้ในเว็บไซต์ของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ฝั่งสหรัฐฯและเพื่อบ้านของจีนหลายชาติได้แสดงความกังวลต่อปฏิบัติการกองทัพเรือจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทะเลจีนใต้
หลายชาติในอาเซียนต่างอ้างสิทธิแย่งชิงความเป็นเจ้าของเหนือพื้นที่ทะเลจีนใต้ อันเชื่อกันว่ามีทรัพยากรน้ำมัน แก๊สธรรมชาติมหาศาล ขณะที่จีนอ้างว่าทั้งหมดเป็นของตน นอกจากนั้นบริเวณดังกล่าวยังมีความสำคัญเนื่องจากเป็นเส้นทางการค้าคิดเป็นอัตราส่วนการใช้เส้นทางมากเป็น 1 ในสามของทั้งโลกทีเดียว
เวียดนามและฟิลิปปินส์กล่าวหาจีนว่ากำลังเพิ่มเสริมอิทธิพลของตนอย่างก้าวร้าว
สำนักข่าวซินหวาได้แปลความเห็นของประธานาธิบดีจีนว่า “ทัพเรือฯ ควรจะขยายการเตรียมพร้อมเพื่อการสงคราม”
เพนตากอนโอเค ขอแค่จีนโปร่งใส
ขณะที่เพนตากอนของสหรัฐฯ กลับมองว่าคำกล่าวของหูนั้นไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าไร โดยอธิบายว่า จีนมีสิทธิ์ที่จะพัฒนากองทหารของตนเอง แต่ต้องมีความโปร่งใส
“พวกเขา (จีน) มิสิทธิ์ ที่จะพัฒนาขีดความสามารถทางการทหารและยุทธศาสตร์ต่าง ๆ เฉกเช่นเดียวกับที่สหรัฐฯ ทำ” จอร์จ ลิทเติล โฆษกเพนตากอนระบุ พร้อมเสริมว่า “เราได้เรียกร้องให้จีนมีความโปร่งใสในการพัฒนากองทัพอีกครั้งหนึ่ง และเรายังคงมีความสัมพันธ์กับกองทัพจีนต่อไป”
พลเรือเอกจอห์น เคอร์บี้ เผยว่า “ขณะนี้พวกเราไม่ต้องการจ้องอิจฉาการพัฒนากองทัพชาติอื่น พวกเขามีสิทธิ์พัฒนาทัพเรือให้พร้อมสรรพ เพราะทัพเรือของเราก็พร้อมอยู่เสมอเช่นกัน”
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ มาร์ค โทเนอร์ ชี้ว่า “พวกเราอยากเห็นความสัมพันธ์ทางการทหารที่แน่นแฟ้นกับจีน และต้องการเห็นความโปร่งใสที่มากกว่านี้ เพราะว่าจะทำให้เราเห็นเจตนาของจีนชัดเจนขึ้นด้วย”
ถ้อยแถลงของหู จิ่นเทาออกมาในช่วงที่ผู้นำสหรัฐฯหลายคนเดินทางเยือนเอเชีย ตั้งแต่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา รัฐมนตรีกลาโหมลีออน พาเน็ตตา และรัฐมนตรีต่างประเทศนางฮิลลารี คลินตัน
นอกจากนั้นปลัดกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ มิเชล โฟรนอย จะได้พบปะกับผู้นำจีนในวันนี้ (7 ธ.ค.) เพื่อการพูดคุยทางทหารด้วย
นายกรัฐมนตรีเวิน จยาเป่าของจีน ออกมาเตือนเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า ให้จีนระแวดระวังและเตรียมยันกับกำลังจากภายนอกในภูมิภาคที่กำลังคืบคลานเข้ามา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแถบทะเลจีนใต้
พร้อมกันนั้นจีนยังเผยว่า จะทำการฝึกซ้อมทัพเรือในมหาสมุทรแปซิฟิก หลังจากโอบามาบอกว่าจะมาเป็นผู้นำ “แปซิฟิกของอเมริกา” คนแรก และสหรัฐฯจะได้นำกองกำลังถึง 2,500 นายมาประจำยังออสเตรเลีย
กองทัพปลดแอกประชาชนจีนซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก มีกองทัพบกเป็นฐานสำคัญก็จริง แต่ทัพเรือขณะนี้กำลังเพิ่มความสำคัญมากขึ้นทบทวี เนื่องจากจีนกำลังมีปัญหาพิพาททางทะเล.