เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์/เอเจนซี--อาตี๋ วัย 5 ขวบ ในเมืองหลินอี๋ มณฑลซันตง โดนไม้คานบ้านตกใส่ อาการสาหัส และต้องพาไปโรงพยาบาลด่วน แม่ของเด็กกอดลูกน้อยไว้ นั่งคุกเข่าที่ริมถนน ก้มศีรษะลงแตะพื้นดิน เพื่อขอความช่วยเหลือพาลูกไปโรงพยาบาล 10 นาที ผ่านไปก็ไม่มีใครหันมาเหลียวแล ไม่มีรถแม้สักคันที่หยุดลงมาดู ในจำนวนรถที่แล่นไปนั้น มีรถเจ้าหน้าที่เทศกิจคันหนึ่งแล่นผ่านไปด้วย
อาตี๋ เสี่ยวหลงหลง ไปกินก๋วยเตี๋ยวกับแม่ ขณะเสี่ยวหลงหลงเล่นอยู่นอกร้านขายก๋วยเตี๋ยว คานไม่อันหนึ่งก็ตกใส่ คานเจ้ากรรมนี้เป็นของร้านขายไม้สำหรับก่อสร้างบ้านเรือนที่อยู่ติดกัน แม่ของเสี่ยวหลงหลงบอกว่าไม่เพียงแต่เคราะห์ร้ายที่โดนคานไม่ตกใส่ สิ่งที่น่าเศร้าสลดก็คือทั้ผู้คนและรถที่สัญจรผ่านไปมาในช่วง 10 นาที ที่เธอนั่งคุกเข่าโขกศีรษะกับพื้นขอร้องความช่วยเหลือ ไม่มีใครเลยหยุดหรือเหลียวมามอง และในกลุ่มรถไผแล่นผ่านหน้าเธอไปนี้ ก็มีรถของเจ้าหน้าที่เทศกิจที่ตรวจตราความสงบเรียบร้อยของเมือง
เธอต้องรอจนกระทั่งรถฉุกเฉินมาถึง จึงได้พาเด็กส่งโรงพยาบาล แต่หนูน้อยมีอาการสาหัสและได้เสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล
กลุ่มสื่อจีนอนาถใจ ชี้เจ้าของร้านขายไม้ แม่เล็กมีส่วนรับผิดชอบกับการสูญเสียชีวิตน้อยๆที่น่าสงสารนี้ แต่สิ่งที่น่าเจ็บปวดกว่านั้น จิตใจที่เย็นชาของผู้คน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ดูแลเมืองที่ขับรถผ่านไปอย่างไม่ใยดี ความเย็นชากำลังกลายแพร่หลายและปกติธรรมดาของเมืองจีนแล้วหรือ?
กรณีเด็กหญิงเสี่ยวเย่ว์ถูกรถยนต์ทับ 2 คัน ที่ตลาดฝัวซัน มณฑลก่วงตงเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่เธอนอนจมกองเลือดกลางถนน มีผู้คนเดินผ่านไปมา 18 คน โดยไม่เหลียวมองและช่วยเหลือเลย ในที่สุดก็มีหญิงเก็บขยะวัยชราเข้ามาพยุงเธอ ขณะที่มารดาเด็กมาพบพอดี และนำตัวส่งโรงพยาบาล เสี่ยวเย่ว์เย่ว์เสียชีวิตในเจ็ดวันต่อมา ท่ามกลางความโศกเศร้าของผู้คนในจีนและต่างประเทศ ที่รู้ข่าวของเธอ เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้สังคมจีนช็อกกับความเย็นชาของสังคมตน.
