ตำรวจเผย “คดีแทงนักข่าวจีน” เป็นการปล้นชิงทรัพย์

เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ / ไชน่า เดลี - เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองลั่วหยางปฏิเสธว่า นักข่าวจีนที่ถูกฆาตกรใช้มีดแทงเสียชีวิต เนื่องจากเกาะติดข่าวกรณีอื้อฉาวการจำหน่ายน้ำมันประกอบอาหารที่กลั่นจากน้ำมันเหลือทิ้ง แท้จริงแล้วไม่เกี่ยวข้องกัน แต่เป็นการปล้นชิงทรัพย์

สืบเนื่องจากเจิ้งโจว อีฟนิ่ง นิวส์ รายงาน(20 ก.ย.)ว่า เกิดเหตุฆาตรกร 2 คน กระหน่ำแทงนายหลี่ เสียง ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ลั่วหยาง วัย 30 ปี ระหว่างกำลังเดินทางกลับบ้านหลังจากไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อน จนเสียชีวิตเมื่อเช้าวันจันทร์(19 ก.ย.)

บรรดาชาวเน็ตจีนและสื่อต่างชี้ว่านายหลี่ อาจถูกปลิดชีพโดยฆาตกรที่ได้รับการว่าจ้างมา เนื่องจากข้อความล่าสุดที่หลี่โพสต์ลงไมโครบล็อกของตนเองเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ระบุข้อมูลเกี่ยวกับโรงงานผลิตน้ำมันประกอบอาหารที่กลั่นจากน้ำมันเหลือทิ้งผิดกฎหมาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนาน ได้เผยเมื่อวาน(21 ก.ย.)ว่า นายหลี่ ถูกแทงเสียชีวิตระหว่างการปล้นชิงทรัพย์ ขณะเดียวกันได้เผยว่า ผู้ต้องสงสัย 2 คนที่ก่อเหตุดังกล่าวถูกจับกุมแล้ว

หลี่ หงเจียง รองผู้อำนวยการสำนักงานพิทักษ์สันติราษฎร์ลั่วหยาง เผยว่า “จากการสืบสวนพบว่า ก่อนลงมือผู้ต้องสงสัย 2 ราย ไม่รู้จักนายหลี่มาก่อน และพวกเขาไม่ได้ถูกจ้างโดยใครทั้งสิ้น กรณีนี้จึงเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าชิงทรัพย์”

พร้อมเผยว่า “ก่อนก่อเหตุ ชายทั้งสองได้ดื่มสุราและขี่มอเตอร์ไซค์ตามนายหลี่ไปในซอยมืด และได้ขู่กรรโชกทรัพย์ แต่นายหลี่ไม่ยอมส่งให้ จึงถูกกระหน่ำแทงเสียชีวิตอนาถ”

สำนักข่าวซินหวารายงานว่า ผู้ต้องสงสัย 2 ราย ได้แก่ นายหลี่ จวินเจ้า วัย 24 ปี และนายจัง เสี่ยวปัว วัย 28 ปี ซึ่งเคยต้องโทษจำคุกในข้อหาปล้นชิงทรัพย์เมื่อปี 2544- 2550 ขณะที่ทั้งคู่เป็นคนตกงานที่อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้ๆกับเมืองลั่วหยาง

เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยอีกว่า “ก่อนกรณีนายหลี่ ชายผู้ต้องสงสัยทั้งสองเคยก่อเหตุชิงทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ และจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบมีดถูกทิ้งอยู่ในห้องน้ำสาธารณะภายในเมือง อีกทั้งพบกล้องและกระเป๋าเงิน ซึ่งคาดว่าเป็นของนายหลี่”