จีนมุงจิตพิเรนทร์เชียร์เด็กจิตสับสนโดดตึก!

สื่อจีน ตงฟังเจ่าเป้า รายงานเหตุน่าอนาถในนครเซี่ยงไฮ้ เมื่อบ่ายวานนี้(23 ส.ค.) ที่อาคารซันเจียฝาง เลขที่ 152 เขตหมิ่นหัง นักศึกษาสาววัย 21 ปี เกิดอารมณ์สับสน คิดกระโดดตึก เธอนั่งอยู่ที่หน้าต่างชั้น 5 ทำท่าลังเลอยู่นาน ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้คนที่มุงดูอยู่ข้างล่าง บ้างถ่ายรูป บ้างก็ตระโกนร้องด้วยถ้อยคำที่เย็นชา จนในราวเวลา 16.41 น. เด็กสาวก็กระโดดตึกลงมาจริงๆ

ช้ำใจแฟนทิ้ง
เด็กสาวกระโดดตึกคนดังกล่าว นั่งอยู่ที่หน้าต่างห้องเลขที่ 502 คุยโทรศัพท์กับใครคนหนึ่งเมื่อเวลา 12.00 น. ของวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิง รุดมาที่เกิดเหตุ ด้วยบริเวณนั้นมีพุ่มไม้หนาแน่น เจ้าหน้าที่จึงได้แหวกพุ่มไม้ นำเบาะลมนิรภัยไปวางไว้ โดยมีรถหน่วยกู้ภัยจอดอยู่ที่หน้าประตูอาคาร เจ้าหน้าใช้โทรโข่งพูดกล่อมให้เด็กสาวถอยกลับเข้าไปในห้อง และเจ้าหน้าที่อีกคนได้ขึ้นไปที่ห้องเลขที่ 602 ยื่นหน้าออกมาทางหน้าต่าง ช่วยหว่านล้อมเด็กสาวอีกแรง แต่เด็กสาวก็ไม่ฟัง ยังคงคุยโทรศัพท์ต่อไป
เจ้าของห้องเลขที่ 602 เล่าว่า ตำรวจและนักจิตวิทยา พยายามพูดหว่านล้อม เรียกชื่อ “เสี่ยวอู๋” ซึ่งเด็กสาวคนนั้นคงจะแซ่อู๋ ดูเหมือนว่าเด็กสาวคุยโทรศัพท์กับแฟน ซึ่งไม่สนใจเธอแล้ว และเธอก็ไม่สนใจฟังเสียงของเจ้าหน้าที่

จีนมุงใจร้าย
เวลาผ่านไป ราว 15.50 น. เจ้าหน้าที่ได้ส่งซาลาเปาและน้ำให้แก่เด็กสาว แต่เธอก็ไม่รับ

ขณะเดียวกัน ผู้คนที่มุงดูอยู่ข้างล่างบางคนคิดว่าเธอ “ทำท่าแสดง เรียกร้องความสนใจไปแค่นั้นเอง” และมีคนหนึ่งได้ร้องตระโกนขึ้นไปว่า “กระโดดเลย โดดลงมาเร็วซิ”

แถมยังมีบางคนร่วมวิพากษ์วิจารณ์อีกว่า “เธอนะรึ จะกระโดดตึก ถ้าจะกระโดดจริงๆ ยังจะรอให้ตำรวจมาทำไม ทำไมไม่โดดลงมาเสียทีล่ะ?”

และเมื่อราว เวลา ราว 16.41 น. เด็กสาวก็กระโดดลงมา ขณะนั้นก็ยังมีคนวิพากษ์วิจารณ์อีกว่า “ไม่ตายหรอก สูงแค่นั้นเอง”

ร่างเด็กสาวร่วงลงมาที่เบาะลมนิรภัยของเจ้าหน้าที่ จากนั้นก็พลิกตัวตกลงไปในท่อระบายน้ำของตึก เจ้าหน้าที่รีบนำตัวเด็กสาวส่งโรงพยาบาล แพทย์บอกว่า เด็กสาวมีเลือดออกที่ศีรษะและจมูก ตอนนี้ดูไม่น่าเป็นอันตรายถึงชีวิต

ผู้ที่รู้จักเด็กสาวเล่าว่า ก่อนหน้า เด็กสาวทะเลาะกับแฟน และแฟนของเธอก็ทิ้งเธอไปอย่างไม่แยแส เธอยังคงโทรศัพท์หาแฟน แต่เขาก็ไม่รับสาย

ถ้อยคำให้ความอบอุ่นใจ ก็เป็นความหวังช่วยชีวิต
ต่อกรณีเด็กสาวกระโดดตึกรายนี้ ผู้คนที่เข้ามามุงดูเหตุการณ์ ร้องตระโกน จนกระทั่งเด็กตัดสินใจกระโดตึกลงมา นักจิตวิทยาของศูนย์ข้อมูลจิตวิทยาแห่งฮวาตงซือต้า นาย จัง ฉี กล่าวถึงกรณีนี้ว่า คำพูดที่เย็นชาของผู้คนที่มุงดูเหตุการณ์ จนทำให้เด็กที่สับสนลังเลจะตัดช่องน้อยแต่พอตัวไปนี้ กระโดดตึกลงมา เพราะความไม่รู้ประสีประสาในการรับมือกับเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้

จัง ฉี ยังกล่าวอีกว่าในสังคมที่มีการแข่งขันสูง ผู้คนมักไร้ความเห็นอกเห็นใจคนแปลกหน้า ตัวอย่างจากกรณีนี้ เด็กสาวที่กระโดดตึกอาศัยอยู่ในเขตเล็กๆ และเธอคงไม่ได้สุงสิงกับใครมากนัก ไม่มีความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน ดังนั้น เพื่อนบ้านในละแวกจึงเห็นเธอเป็นคนแปลกหน้า แสดงคำพูดที่เย็นชาอย่างง่ายๆเช่นนั้น

ในกรณีคนคิดสั้น หลายคนอาจลังเลอยู่ เพียงคนรอบข้างกล่าวคำที่ให้กำลังใจ ห่วงใย สร้างความอบอุ่นใจ ก็อาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายให้ผู้คิดสั้นยึดเกาะ กลับใจมีชีวิตอยู่ต่อไป.