xs
xsm
sm
md
lg

บัณฑิตใหม่จีน "ควบฝันฯ ปั่นสองล้อ" จากเซี่ยงไฮ้ถึงลอนดอน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจิ้ง เซิง บัณฑิตใหม่ วัย 23 ปี ยืนอยู่หน้าหอนาฬิกาบิ๊กเบน ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา หลังปั่นจักรยานข้ามทวีปจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ข้าม 11 ประเทศ นาน 136 ระยะทาง 14,000 กิโลเมตร(ภาพไชน่า เดลี)
ไชน่าเดลี่/โกลบอล ไทม์ส - เจิ้ง เซิง หนุ่มจีนวัย 23 ปี ชา่วยูนนาน เริ่มต้นชีวิตหลังสำเร็จเป็นบัณฑิตใหม่ จากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ด้วยการต่อเติมปริญญาแห่งใจฝัน ปั่นจักรยานทางไกล 14,000 กิโลเมตร 136 วัน จากเซี่ยงไฮ้ถึงลอนดอน

เจิ้ง เซิง บัณฑิตสดใหม่ ผู้ยังไม่เคยเดินทางไปไหนเลย และความฝันว่าจะขี่จักรยานข้ามทวีปก็อยู่ในใจเขาเสมอมา ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2551 เขาเคยขี่จักรยานจากเซี่ยงไฮ้ไปเสฉวน และต่อเลยไปถึงทิเบต แต่นั่นไม่เหมือนกับการปั่นไปลอนดอนครั้งนี้

ก่อนเดินทางนั้น เขาวางแผนและเตรียมสภาพร่างกายอยู่นานปี และติดต่อขอทุนสนับสนุนจากบรรดาบริษัทขายจักรยานฯ หลายราย มีแต่คนมองเขาแปลกๆ บ้างก็พูดจนเขาเสียกำลังใจ และความเชื่อมั่น ด้วยคิดว่าคงเพียงแค่อยากเท่ เสร็จแล้วก็เหลวเหมือนเด็กๆ

เจิ้ง เซิง เริ่มต้นการเดินทางด้วยทุนของตนเอง เพราะไม่ต้องการรบกวนครอบครัวหรือเพื่อนฝูง เขาปั่นจักรยานออกจากจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อวันที่ 5 มี.ค. เดินทางผ่าน 11 ประเทศ คือ จีน คาซัคสถาน รัสเซีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย โปแลนด์ เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม ฝรั่งเศส จนที่สุดก็ถึงที่หมายคือกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา รวมการเดินทางทั้งสิ้นนาน 136 วัน

เจิ้ง บอกว่า "ประสบการณ์ 136 วันนี้ จะอยู่กับผมไปชั่วชีวิต"

ก่อนเดินทางนั้น เจิ้งได้โพสต์ในไมโครบล็อกไว้ว่า "ได้เวลาเดินทางไกลบรรลุเป้าหมาย 14,000 กิโลเมตรแล้ว" และแม้ว่าความสำเร็จจะบอกเล่าได้ แต่ความยากลำบากแทบรากเลือดออกมานั้น คงไม่มีใครรู้นัก

รายงานข่าวกล่าวว่า เจิ้งศึกษาเส้นทางตลอดก่อนจะผ่านประเทศต่างๆ มีถนนตัดไปไหน มีอันตรายจากผู้ร้ายหรือสัตว์ป่าระหว่างทางไหม เสบียงพอจะข้ามทะเลทราย จนไปโรงแรมข้างทางที่ไหน เป็นการเดินทางที่พึ่งตนเองสูง และใช้งบการเดินทางที่มีอยู่นิดเดียว ด้วยการไม่กินอะไรมากไปกว่าขนมปังธรรมดา และขดตัวนอนในเต็นท์เสียเป็นส่วนใหญ่ จนตอนข้ามไปถึงยุโรปจึงได้เพิ่มเนยแข็งชิ้นบางๆ

"ตอนเดินทางข้ามภูเขาในรัสเซีย อากาศหนาวเหน็บ จนนอนไม่ได้และขาเจ็บระบมไปหมด" เจิ้ง กล่าว "เป็นคืนที่โหดสุดๆ"

"บางครั้ง ตอนเผชิญพายุฝน เต็นท์บางๆ ของผมก็ปลิวลอยไปเหมือนร่มคันเล็กๆ เลย บางทีตอนฝนตกพื้นเต็นท์ก็จะฉ่ำๆ เหมือนเรานอนอยู่บนน้ำเลย"

แต่เจิ้งก็บอกว่า ความเหน็ดเหนื่อยในแต่ละวันนี่เอง ทำให้เขาหลับได้ทุกที่โดยไม่เกี่ยงสภาพแวดล้อม

มีครั้งหนึ่งขณะปั่นข้ามทะเลทราย เขาถูกฝูงสุนัขป่าวิ่งไล่ล่าอยู่หลายชั่วโมง "ครั้งนั้น เป็นวันแรกๆ ของการเดินทางเลย ผมขี่ข้ามชายแดนจีนเข้าไปในคาซัคสถาน ทะเลทรายเวิ้งว้างแบบที่มองไปรอบตัวเห็นไม่เห็นอะไรนอกจากฟ้าจรดทราย และผมกับฝูงหมาป่านั้น"

เจิ้งบอกว่า เขาปั่นหนีจนพ้นมาได้ แบบแทบสลบเหมือด แต่นอกจากความกลัวจากฝูงสัตว์ป่านั้น เขากลับได้พบกับมิตรภาพความช่วยเหลือ ที่หยิบยื่นให้จากคนท้องถิ่นมากมายระหว่างการเดินทาง

"ชาวเยอรมัน คนหนึ่งออกปากเลี้ยงอาหารจีนกับผม เราคุยแลกเปลี่ยนกัน เขาก็ชอบขี่จักรยาน และสิ่งที่ผมทำ"

เราทำได้ นายก็ทำได้

โกลบอลไทม์ส รายงานวันที่ 10 ส.ค. ว่า ล่าสุด เจิ้ง เซิงได้เดินทางกลับไปยังภูมิลำเนา ที่มณฑลยูนนาน ประเทศจีนแล้ว เขากล่าวว่า มีความพร้อมที่จะพบกับความท้าทายต่างๆ ของชีวิต และการงานสร้างอนาคต

ฮุ่ยหลิน เพื่อนสนิทคนหนึ่งของเจิ้ง กล่าวว่า "ผมสนับสนุนเขา เจิ้งเป็นคนที่มีความตั้งใจ ความกล้าหาญและมุ่งมั่นของเขาก็เป็นแรงบันดาลให้พวกเราด้วย"

เจิ้งกอดเพื่อนของเขา พร้อมกับบอกเพื่อนว่า "แต่ละคนมีความฝัน นี่ไง! เราทำได้แล้ว เราทำได้ นายและใครๆ ก็ทำได้"
เจิ้ง เซิง ที่จตุรัสแดง กรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 17 พ.ค. (ภาพโกลบอลไทม์ส)
ภาพเมื่อปี 2551 ครั้งที่เขาขี่จักรยานจากเซี่ยงไฮ้ไปเสฉวน และต่อเลยไปถึงทิเบต (ภาพเอเยนซี)
กำลังโหลดความคิดเห็น