เดอะ นิวยอร์กไทมส์ - จีนไฟเขียวจัดฝูงเครื่องบินขับไล่เจเอฟ-17 จำนวน 50 ลำให้ปากีสถานในทันที ระหว่างนายกรัฐมนตรียูซาฟ ราซา กิลานี เยือนซบอกพญามังกร หลังจากถูกสหรัฐฯ ตบหน้า ละเมิดอธิปไตยบุกสังหารบินลาดินถึงรังในปากีสถาน โดยไม่บอกกล่าว
รัฐบาลจีนตกลงมอบเครื่องบินดังกล่าวระหว่างการหารือกับนายกรัฐมนตรีปากีสถานที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันศุกร์ (20 พ.ค.) ขณะที่เจ้าหน้าที่ปากีสถานระบุว่า ปัจจุบัน จีนและปากีสถานได้ร่วมมือกันผลิตเครื่องบินขับไล่เจเอฟ-17 อยู่แล้ว แต่เครื่องบินรุ่นใหม่จำเป็นต้องติดตั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์การบิน ซึ่งมีความซับซ้อนกว่าเดิม จีนจึงจัดการส่งมอบเครื่องบินจำนวนดังกล่าว โดยควักกระเป๋าจ่ายให้ทั้งหมด
การเยือนกรุงปักกิ่งของนายกรัฐมนตรีกิลานีในสัปดาห์นี้เหมือนเป็นการเตือนสหรัฐฯ ว่า ปากีสถานอาจทบทวนความสัมพันธ์กับอีกฝ่าย และหันไปหาจีน เพื่อชดเชยสิ่ง ที่หลายฝ่ายในปากีสถานมองว่า รัฐบาลปากีสถานพึ่งพาสหรัฐฯ มากจนเกินไปแล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ปากีสถานโกรธจัด ที่รัฐบาลประธานาธิบดีบารัก โอบาม่าปิดปากสนิทแผนการจู่โจมสังหารนายอุสซะมะห์ บินลาดิน ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ซึ่งกบดานอยู่ในเมืองอั๊บบ็อตตาบัตของปากีสถานเมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา จนกระทั่งเฮลิคอปเตอร์พาชุดปฏิบัติการพิเศษเนวีซีล บินพ้นน่านฟ้าปากีสถานแล้ว เจ้าหน้าที่ปากีสถานถึงได้ทราบเรื่อง
หัวหน้าหน่วยข่าวกรองของปากีสถานประณามสหรัฐฯ ต่อหน้านักข่าว ก่อนเข้าชี้แจงต่อรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของปากีสถาน ขณะที่รัฐสภาปากีสถานเรียกร้องรัฐบาลทบทวนความสัมพันธ์กับพญาอินทรี
สหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือแก่ปากีสถานราว 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นด้านการทหารสำหรับความร่วมมือในการทำสงครามต่อต้านการก่อการร้าย หลังจากเกิดเหตุโจมตีสหรัฐฯ 11 กันยายน 2544 อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือเกิดสั่นคลอนในทันที เมื่อสหรัฐฯ สงสัยว่า บินลาดินเข้ามาหลบอยู่ในเมือง ซึ่งอยู่ใกล้กับกรุงอิสลามาบัท และอยู่ใกล้กับโรงเรียนนายร้อยได้อย่างไร ขณะที่รัฐสภาสหรัฐฯ ก็กำลังกดดันให้รัฐบาลสหรัฐฯ ลดการช่วยเหลือปากีสถาน
ด้านนายกรัฐมนตรี เวิน จยาเป่านั้นกล่าวระหว่างพบหารือกับนายกิลานีว่า สหรัฐฯควรเคารพอธิปไตยของปากีสถาน
การทำข้อตกลงมอบฝูงเครื่องบินขับไล่เจเอฟ-17 ดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า ผลประโยชน์ระหว่างจีนกับปากีสถานเป็นเรื่องที่ลงตัวกันได้อย่างง่ายดายกว่าที่ปากีสถานทำกับสหรัฐฯ และถึงแม้ว่า สหรัฐฯ อาจเป็นชาติผู้ให้ความช่วยเหลือปากีสถานมากที่สุดในโลก แต่จีนก็เป็นชาติคู่ค้ารายใหญ่สุดของปากีสถานเช่นกัน นอกจากนั้นยังได้ทุ่มการลงทุนเพื่อก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกในเมืองกวาด้าร์ของปากีสถานมานานหลายปีแล้วด้วย