เอเอฟพี-ตลาดยักษ์ใหญ่อย่างจีนแซงหน้าคู่ปรับอินเดียในด้านขีดความสามารถทักษะภาษาอังกฤษ แม้ยักษ์ใหญ่แห่งเอเชียใต้แดนภารตะมีประเพณีการใช้ภาษาอังกฤษที่แข็งแกร่งก็ตาม ทั้งนี้ จากผลการสำรวจใหม่ล่าสุด จัดทำโดย EF Education บริษัทด้านการศึกษาที่ชำนัญการฝึกฝนภาษาและการศึกษาด้านต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองชาติต่างก็ได้คะแนนต่ำใน “ดัชนีขีดความสามารถด้านทักษะภาษาอังกฤษ” ของEF ที่ทำการสำรวจใน 44 ประเทศ โดยจีนได้คะแนนสูงเป็นอันดับที่ 29 นำหน้าอินเดียเพียงอันดับเดียว (อินเดียอยู่อันดับที่ 30)
“แม้การที่เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ทำให้อินเดียมีข้อได้เปรียบในการใช้ภาษาอังกฤษ แต่การสำรวจล่าสุดระบุว่าอินเดียแพ้จีนในด้านขีดความสามารถภาษาอังกฤษแล้ว” รายงานการศึกษาระบุ
การที่อินเดียมีประชากรที่ใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างกว้างขวาง ยังเป็นปัจจัยหลักประการหนึ่งที่ทำให้อุตสาหกรรม เอ้าท์ซอร์ส หรือรับจ้างผลิตในแดนภารตะ เฟื่องฟู โดยกลุ่มบริษัทชาติตะวันตกได้เข้ามาจัดตั้งศูนย์สนับสนุนภาคไอทีในเมืองต่างๆ อาทิ บังกาลอร์ และไอเอดราบัด
แต่ขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มหนึ่งเตือนว่า อินเดียกำลังสูญเสียเงื่อนไขข้อได้เปรียบด้านภาษาให้แก่จีน ซึ่งขณะนี้จีนกำลังทุ่มเททรัพยากรมากขึ้นในการฝึกสอนภาษาอังกฤษ
การศึกษาเพื่อจัดทำดัชนีขีดความสามารถด้านทักษะภาษาอังกฤษของEFชุดล่าสุดนี้ ดำเนินการประเมินโดยการทดสอบภาษาอังกฤษทางออน์ไลน์ในกลุ่มผู้ใหญ่ 2.4 ล้านคนตามเขตต่างๆทั่วโลกระหว่างปี 2550-2551 แต่ EF ก็ระบุว่า ทางบริษัทฯไม่รับประกันว่าผลสำรวจนี้สามารถสะท้อนขีดความสามารถฯประเทศใดๆอย่างครอบคลุมทั้งหมด เนื่องจากผู้ที่เข้าร่วมการทดสอบมาจากเพียงกลุ่มคนที่สนใจเรียนรู้ภาษาอังกฤษ หรืออยากรู้เกี่ยวกับทักษะภาษาอังกฤษของตน นอกจากนี้ การทดสอบยังดำเนินการผ่านสื่อออน์ไลน์ ดังนั้น กลุ่มคนที่ไม่อาจเข้าถึงอินเทอร์เน็ตก็ไม่สามารถเข้าร่วมฯ
อย่างไรก็ตาม การสำรวจฯนี้ ซึ่งเผยแพร่ในต้นเดือนเม.ย.นี้ ก็สอดคล้องกับรายงานประจำปี 2552 ของ British Council ที่มุ่งเน้นเสนอกรณีความขาดแคลนครูภาษาอังกฤษและสถาบันศึกษาที่มีคุณภาพในประเทศอินเดีย นอกจากนี้ National Knowledge Commission ของแดนภารตะ ก็ได้ยอมรับว่าปัจจุบันมีชาวอินเดียที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง ไม่เกินหนึ่งเปอร์เซนต์
ทั้งนี้ ในดัชนี EF ที่ทำการสำรวจใน 44 ประเทศ นอร์เวย์ได้ครองอันดับหนึ่ง และคาซัคสถานครองอันดับโหล่.