ประหารหนุ่มเหี้ยม ลักพาตัวเด็กสาวขังห้องมืด ข่มขืนสองปี

เอเอฟพี-ศาลเมืองอู่ฮั่นพิพากษาประหารชีวิตหนุ่มจีนวัย 40 ปี ผู้ลักพาตัวเด็กสาววัยรุ่นสองคน มากักขังในห้องใต้ดิน ทุบตี และข่มขืนเป็นเวลาหลายเดือน

หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ รายงานวันนี้(1 ก.พ.)การพิพากษาคดีสะเทือนขวัญ ว่า เมื่อวันอาทิตย์(30 ม.ค.)ศาลประชาชนชั้นกลางเมืองอู่ฮั่น มณฑลอันฮุย ได้พิพากษาโทษประหารชีวิต นาย เจิง เฉียงเป่า คนงานโรงงานหลอมเหล็ก ในความผิดข่มขืน กักขัง ขโมย

สืบเนื่องจาก นายเจิง ได้ลักพาตัวเด็กสาววัย 16 ปี แซ่ โจวเมื่อเดือนก.ย.ปี 2551 และขังเด็กสาวไว้เกือบสองปี (590 วัน) และต่อมายังได้ลักพาตัวเด็กสาว 19 ปี ในเดือนก.ค. ปี 2552 ขังเธอไว้ราว 10 เดือน (317 วัน) ระหว่างนี้ พวกเธอถูกตบตี ข่มขืนอย่างทารุณ

เด็กสาวทั้งสองได้หลุดพ้นจากนรกเมื่อเดือนพ.ค.ปี 2553 หลังจากที่เด็กสาวได้แอบส่งโน้ตข้อความ แผนที่ และเบอร์โทรศัพท์ของพ่อแม่ พวกเธอพยายามส่งโน้ตนี้โดยซ่อนไว้ในขยะซองบะหมี่สำเร็จรูป และในที่สุดเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ชายแซ่ ตู้ ได้มาที่ร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าของเพื่อน และก็พบโน้ตของเด็กสาวอยู่ที่โทรทัศน์พังๆเครื่องหนึ่ง ข้อความเขียนว่า “ช่วยด้วย ฉันถูกขังไว้ในห้องใต้ดินปีกว่าแล้ว...” พร้อมกับรูปวาดแผนที่บ้านที่เธอถูกขังไว้ และที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ของพ่อของโจว

นายตู้ จึงได้โทรศัพท์ไปหาพ่อของโจว และบอกเรื่องราวในโน้ต บ้านของโจวอยู่ห่างจากบ้านที่ลูกสาวของเขาถูกขัง เพียง 200 เมตร โจวได้โทรศัพท์เรียกตำรวจทันที และพวกเขาก็พบเด็กสาวในสภาพเปลือยกาย มีเพียงโซ่ล่ามที่เท้าในห้องใต้ดินของบ้านนายเจิง

เหตุการณ์นี้ ช็อกสาธารณชน และสื่อ ประชาชนต่างประณามนายเจิงเป็น “ปิศาจห้องมืด”

“เจิงได้ทำร้ายร่างกาย และจิตใจของเด็กทั้งสองอย่างรุนแรง นับเป็นเหตุสะเทือนขวัญสังคมยิ่ง ดังนั้น สมควรได้รับโทษขั้นเด็ดขาด” ผู้พิพากษากล่าวระหว่างอ่านคำพิพากษา

นาย เจิงได้กล่าวว่าเขาจะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาโดยบอกว่าโทษที่เขาได้รับรุนแรงเกินไป เขาไม่ได้ทำให้คนเสียชีวิตหรือตั้งครรภ์ และเขาก็มีปัญหาทางจิต ดังนั้น เขาจะขอให้จิตแพทย์ประเมินว่าเขาสมควรรับผิดชอบต่อการกระทำหรือไม่

หลี่ เหม่ยจิน อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมกลุ่มโรคจิตของมหาวิทยาลัยความมั่นคงประชาชนจีน กล่าวว่าพฤติกรรมของนายเจิงเข้าขั้นวิปริตทางเพศ และเขาจะต้องรับผิดชอบเต็มประตู

“เกณฑ์ตัดสินคนบ้าโรคจิต ก็คือเขาหรือเธอยังสามารถปกป้องตัวเองขณะกระทำอาชญากรรมหรือไม่ สำหรับกรณีนายเจิง เขาสามารถควบคุมเด็กสองคน และยังปกปิดมิให้คนอื่นล่วงรู้ได้เป็นเวลานาน ดังนั้น ฉันจึงวินัจฉัยว่าเขามีสำนึกรู้ตัวปกติ”