ไชน่าเดลี - ปัจจุบันการสอบ TOEIC หรือการทดสอบภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารระหว่างประเทศ(Test of English for International Communication ) ซึ่งเป็นข้อสอบมาตรฐานระดับสากล ในการวัดทักษะภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจและการติดต่อสื่อสารในที่ทำงาน กำลังเป็นที่สนใจของผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยในจีนมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะช่วยให้หางานทำได้ง่ายขึ้น หรือไต่เต้าไปสู่ตำแหน่ง ที่สูงขึ้น
มีผู้เข้าสอบ TOEIC จำนวน 1 แสนคนในปี 2551 และเพิ่มอีก 3 เท่าเป็น 3 แสนคนเมื่อปีที่แล้ว ส่วนในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มถึง 5 แสนคน นอกจากนั้นภายใน 3-5 ปีข้างหน้าคาดว่าจะเพิ่มสูงกว่า 5 ล้านคน นายหวัง หลิน ประธานATA Co. บริษัทรายใหญ่สุดในจีน ที่ให้บริการด้านการทดสอบทักษะและการประเมินผล สำหรับการเข้าทำงานระบุ
TOEIC จัดทำขึ้น โดยสถาบัน Educational Testing Service (ETS) ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนไม่แสวงผลกำไรชั้นนำของโลกในการพัฒนาแบบทดสอบและประเมินผลด้านการศึกษา ขณะที่จีนจะเป็นตลาดใหญ่ที่สุดสำหรับ TOEIC ในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากบริษัทผู้ประกอบการของจีนมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และต้องการเข้าไปมีส่วนแบ่งในตลาดโลก นายเฟิง อี้ว์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการทดสอบการศึกษาด้านการบริหารจัดการทั่วโลกของ TOEIC กล่าว
“ยิ่งบริษัทก้าวสู่ระดับโลกมากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งต้องการทักษะในการบริหารจัดการและการสื่อสารมากขึ้นเท่านั้น” เขาระบุ
จากข้อมูลของETS ชี้ว่า มีบริษัทกว่า 10,000 แห่งทั่วโลก รวมทั้งในญี่ปุ่นและเกหลีใต้ ยอมรับคะแนนการวัดผลของ TOEIC สำหรับตัดสินทักษะความสามารถด้านภาษาอังกฤษของผู้สมัครเข้าทำงาน โดยนายหวังระบุว่า ปัจจุบันบริษัทรายใหญ่ของจีนราว 100 รายทั้งของภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจเริ่มใช้คะแนนวัดผลของ TOEIC ในการรับผู้จบการศึกษามหาวิทยาลัยเข้าทำงาน นอกจากนั้น บางบริษัทยังมีข้อกำหนดให้พนักงานเข้าสอบ TOEIC เพื่อรักษาตำแหน่งงานในปัจจุบัน และหากทำคะแนนได้สูงตำแหน่งหน้าที่การงานย่อมก้าวหน้า
เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา นายหวังแห่ง ATA Co. และนายอี้ว์ แห่ง TOEIC ได้ลงนามข้อตกลงในการเป็นพันธมิตร เพื่อร่วมมือกันเจาะตลาดสำหรับการจัดสอบ TOEIC นอกจากนั้น บริษัททั้งสองยังได้ร่วมจัดทำหนังสือคู่มือเกี่ยวกับ TOEIC อย่างเป็นทางการเล่มแรกอีกด้วย
ด้านปั๋ว หยาง นักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่งเข้าสอบ TOEICเมื่อต้นปีที่แล้ว
“ฉันไปสอบ เพราะมันกำลังเป็นที่นิยมกัน และเพื่อนบอกว่าจะช่วยให้หางานได้ง่าย” เธอเล่า
“สำหรับฉันแล้ว การสอบนี้ไม่ยากเท่าไร จะเน้นเรื่องคำศัพท์และการใช้ ซึ่งแตกต่างจากการสอบภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัยทั่วไป แต่ถ้าพูดกันตามจริงแล้ว หากภาษาอังกฤษคุณดีพอ มันก็ไม่แตกต่างกันเท่าไรนัก” เธอให้ความเห็น
ทั้งนี้ ปั๋วต้องจ่ายเงินสำหรับการสอบTOEIC ราว 100 หยวน ขณะที่การสอบภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัยทั่วไปจ่ายเงินไม่ถึง 20 หยวน
เธอยังกล่าวด้วยว่า บริษัทบางรายในจีนยังไม่รู้จักTOEIC และจะพิจารณาจากใบรับรองทักษะภาษาอังกฤษ ที่ทางมหาวิทยาลัยออกให้ก็เพียงพอแล้ว และในบางครั้งบริษัทต้องการดูผลคะแนนของTOEFL หรือ IELTS มากกว่า
ด้านจิน ไซว เจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทผู้ประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ของเยอรมนีในนครเซี่ยงไฮ้เห็นด้วยกับปั๋ว โดยระบุว่า บริษัทของเธอต้องการให้ผู้สมัครงานแสดงคะแนนวัดระดับทักษะภาษาอังกฤษจากTOEFL หรือ IELTS มากกว่า
โดยส่วนตัวนั้น เธอทราบเรื่องการสอบTOEIC แต่ก็มิได้ให้ความสำคัญมากไปกว่าการทดสอบภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัยในการพิจารณารับสมัครพนักงาน
“บริษัทของเราไม่ต้องการให้พนักงานต้องทำข้อสอบ TOEIC เพื่อรักษาตำแหน่งงานในปัจจุบันไว้อีกด้วย” จินกล่าวในตอนท้าย