เอเจนซี--สองพ่อลูกเกษตรเลี้ยงหมู นาย เถา ฮุ่ยซี วัย 68 ปี และพ่อ เถา ซิงเสี่ยว วัย 92 ปี ได้จุดไฟเผาตัวเอง เพื่อขัดขวางเจ้าหน้าที่เข้ามารื้อบ้าน และฟาร์มเลี้ยงหมู เพื่อจะนำที่ดินไปสร้างทางหลวง นายเถา ได้เสียชีวิตไปในกองเพลิง ส่วนพ่อนั้น รอดชีวิต
สื่อจีนเป่ยจิงนิวส์รายงานว่า นายเถาได้ย้ายมาอยู่ที่ตำบลหวงชวน เขตตงไห่ มณฑลเจียงซูเมื่อปี 2538 ได้ลงทุน 2 แสนหยวน ทำฟาร์มหมูเลี้ยงชีพบนพื้นที่ 2 มู่* (ราว 1,333.4 ตร.ม.) กระทั่งเมื่อปีที่แล้ว ตงไห่ผุดโครงการก่อสร้างทางหลวง ซึ่งจะตัดผ่านบริเวณบ้านของ 4 ครอบครัวในหวงชวน โดยมีบ้านฟาร์มหมูของนายเถา รวมอยู่ด้วย
สี่ครอบครัวได้ย้ายออกไปแต่โดยดี และบ้านพวกเขาก็ถูกรื้อไปเรียบร้อย แต่นายเถายืนกรานไม่ยอมย้าย โดยบอกว่าค่าชดเชย 75,000 หยวนนั้น ต่ำเกินไป และพยายามต่อรองค่าชดเชยที่สูงกว่านี้ โดยบอกว่าเฉพาะตัวสิ่งปลูกสร้างในบริเวณบ้าน มีมูลค่ากว่า 150,000 หยวน
เถา ชิวอี๋ว์ ลูกชายของนายเถาเล่าว่า ในคืนวันเสาร์(27 มี.ค.) คนงานเกือบร้อยคนนำรถแทรกเตอร์มารื้อบ้านของนายเถา แต่นายเถาได้ล็อกประตูบ้าน โดยมีเถา ซิงเสี่ยวผู้พ่ออยู่ด้วย และราดน้ำมันตรงประตูบ้าน กระทั่งเช้า 8.00 น. คนงานพยายามพังประตูบ้านเข้าไป จากนั้นไฟก็ลุกพรึ่บ
ชาวบ้านในบริเวณถูกกันออกจากจุดเกิดเหตุ พวกเขาเห็นไฟลุกท่วมบ้านของนายเถาแต่ไกล นายเถา ฮุ่ยซี เสียชีวิตในกองเพลิง และศพของเขาถูกลากออกมาไว้ข้างทาง 2 ชม. ส่วนคนงานก็ทำการรื้อถอนบ้านต่อไป กระทั่งบริเวณบ้านราบเป็นหน้ากลอง
เถา ชิวอี๋ว์ บอกว่า “ไม่มีใครพยายามเข้าไปช่วยชีวิตทั้งสองขณะที่ไฟกำลังลุกไหม้บ้าน เมื่อปีที่แล้ว พ่อได้ทะเลาะกับเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบล ดังนั้น เมื่อเกิดเรื่อง ก็ไม่มีใครคิดช่วยชีวิต”
ทั้งนี้ การยึดบ้านและที่ทำกินชาวบ้านในจีนได้กลายเป็นปัญหารุนแรงมาหลายปี เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว เกิดกรณีช็อกประชาชนในประเทศ หญิงในมณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ได้จุดไฟเผาตัวเอง ประท้วงแผนการรื้อถอนโรงงานทำเสื้อผ้าของสามีเธอ โดยเธอเสียชีวิตใน 16 วัน ต่อมา.
* 1 มู่ เท่ากับ 666.7 ตารางเมตร
สื่อจีนเป่ยจิงนิวส์รายงานว่า นายเถาได้ย้ายมาอยู่ที่ตำบลหวงชวน เขตตงไห่ มณฑลเจียงซูเมื่อปี 2538 ได้ลงทุน 2 แสนหยวน ทำฟาร์มหมูเลี้ยงชีพบนพื้นที่ 2 มู่* (ราว 1,333.4 ตร.ม.) กระทั่งเมื่อปีที่แล้ว ตงไห่ผุดโครงการก่อสร้างทางหลวง ซึ่งจะตัดผ่านบริเวณบ้านของ 4 ครอบครัวในหวงชวน โดยมีบ้านฟาร์มหมูของนายเถา รวมอยู่ด้วย
สี่ครอบครัวได้ย้ายออกไปแต่โดยดี และบ้านพวกเขาก็ถูกรื้อไปเรียบร้อย แต่นายเถายืนกรานไม่ยอมย้าย โดยบอกว่าค่าชดเชย 75,000 หยวนนั้น ต่ำเกินไป และพยายามต่อรองค่าชดเชยที่สูงกว่านี้ โดยบอกว่าเฉพาะตัวสิ่งปลูกสร้างในบริเวณบ้าน มีมูลค่ากว่า 150,000 หยวน
เถา ชิวอี๋ว์ ลูกชายของนายเถาเล่าว่า ในคืนวันเสาร์(27 มี.ค.) คนงานเกือบร้อยคนนำรถแทรกเตอร์มารื้อบ้านของนายเถา แต่นายเถาได้ล็อกประตูบ้าน โดยมีเถา ซิงเสี่ยวผู้พ่ออยู่ด้วย และราดน้ำมันตรงประตูบ้าน กระทั่งเช้า 8.00 น. คนงานพยายามพังประตูบ้านเข้าไป จากนั้นไฟก็ลุกพรึ่บ
ชาวบ้านในบริเวณถูกกันออกจากจุดเกิดเหตุ พวกเขาเห็นไฟลุกท่วมบ้านของนายเถาแต่ไกล นายเถา ฮุ่ยซี เสียชีวิตในกองเพลิง และศพของเขาถูกลากออกมาไว้ข้างทาง 2 ชม. ส่วนคนงานก็ทำการรื้อถอนบ้านต่อไป กระทั่งบริเวณบ้านราบเป็นหน้ากลอง
เถา ชิวอี๋ว์ บอกว่า “ไม่มีใครพยายามเข้าไปช่วยชีวิตทั้งสองขณะที่ไฟกำลังลุกไหม้บ้าน เมื่อปีที่แล้ว พ่อได้ทะเลาะกับเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบล ดังนั้น เมื่อเกิดเรื่อง ก็ไม่มีใครคิดช่วยชีวิต”
ทั้งนี้ การยึดบ้านและที่ทำกินชาวบ้านในจีนได้กลายเป็นปัญหารุนแรงมาหลายปี เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว เกิดกรณีช็อกประชาชนในประเทศ หญิงในมณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ได้จุดไฟเผาตัวเอง ประท้วงแผนการรื้อถอนโรงงานทำเสื้อผ้าของสามีเธอ โดยเธอเสียชีวิตใน 16 วัน ต่อมา.
* 1 มู่ เท่ากับ 666.7 ตารางเมตร
