เอเยนซี-บรรดาผู้เชี่ยวชาญและนักธุรกิจจีนต่างออกมาแสดงความเห็นต่อการหยุดคัดกรองผลการสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ Google.cn ในจีน ไปเมื่อวันที่ 23 มี.ค.โดยโยกลิงค์ผู้ใช้งานเว็บไซต์ Google.cn ไปยัง Google.com.hk ในฮ่องกงแทนนั้น คือตัวอย่างของคนทำมาค้าขายที่ไม่รู้ธรรมเนียมปฎิบัติ
หวัง เสี่ยวกวง นักวิจัยจาก สถาบันธรรมาภิบาลแห่งชาติจีนกล่าวเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ว่า ตามหลักการค้าสากล ก่อนที่จะตัดสินใจทำธุรกิจในต่างประเทศ บริษัทต่างชาติก็รู้ดีอยู่แล้วว่ากฎหมายและข้อกำหนดต่างๆ ของประเทศนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งถ้าไม่พอใจก็ไม่ควรเข้ามาทำในบ้านเขา แม้ถึงอยู่ๆ ไป หากเปลี่ยนใจแล้ว ก็ควรหาทางออกด้วยการเจรจาอย่างสงบ ไม่ใช่โวยวายโทษเจ้าของบ้าน
กรณีนี้ เหมย ซินหยู จากสถาบันความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ หน่วยงานสังกัดของกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การที่กูเกิลถอนตัวไปเพื่อทำให้ประเด็นนี้กลายเป็นเรื่องการเมือง
ฌอน โจว ซีอีโอบริษัท Trina Solar Limited ของสหรัฐฯ ในมณฑลเจียงซู กล่าวว่า บริษัทต่างชาติที่ทำธุรกิจในจีน ก็ต้องเข้าใจ Act Local ปรับตัวให้เข้ากับสภาพการณ์ต่างๆ ในประเทศให้ได้ และควรตรวจสอบกฎหมายและข้อบังคับของประเทศให้ดีก่อนตัดสินใจเข้ามาทำธุรกิจ เช่นที่เราพูดอยู่เสมอว่า Think Global, Act Local
ขณะที่ บทบรรณาธิการของ หนังสือพิมพ์ โกลบอล ไทมส์ วันที่ 24 มี.ค. ระบุว่า กูเกิลโวยวายเมื่อสองเดือนก่อนประมาณว่า จะหาแนวร่วมเพื่อจับมือตามกันไปด้วยคุณธรรมสูงส่งที่อ้างในนามเสรีภาพ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า คิดผิด
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ประกอบการต่างชาติส่วนใหญ่ แม้กระทั่ง สตีฟ บอลเมอร์ ซีอีโอไมโครซอฟต์ ก็กล่าวว่า มันเป็นปัญหาเฉพาะบุคคล
สื่อจีนบางสำนักยังวิเคราะห์ว่า เพราะบริษัทต่างชาติเผชิญกับการแข่งขันอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนจาก บริษัทของจีน รวมทั้งบอกด้วยว่า กูเกิ้ลกำลังทำให้ประเด็นธุรกิจเป็นความขัดแย้งในเชิงการเมืองกับรัฐบาลจีน โดยอ้างประเด็นเซ็นเซอร์และการโจมตีเวบไซต์
และจากเหตุการณ์นี้ รัฐบาลจีนจึงออกมาย้ำให้บริษัทต่างชาติตรวจสอบกฎหมายของจีนให้ดีเสียก่อน ที่จะเข้าบ้านเขา ขณะเดียวกันยังได้สั่งให้บริษัทจีนที่ลงทุนในต่างประเทศตรวจสอบกฎหมายและข้อกำหนดของประเทศนั้นๆ ด้วย
ทั้งนี้ผลกระทบของการที่กูเกิลถอนตัวออกจากจีนจะมีหรือไม่เพียงใดนั้น บรรดาผู้เชี่ยวชาญและนักธุรกิจในจีนเชื่อว่าสภาพการลงทุนในจีนคงไม่ตกต่ำลง
เหมือนเช่นที่ หวัง หยู จากคณะเศรษฐกิจอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยหนานจิง กล่าวว่า ธุรกิจของกูเกิลก็ซบเซาอยู่แล้วในจีน การถอนตัวของกูเกิลจึงเป็นเรื่องของธุรกิจเสิร์ชเอนจิ้นเท่านั้น และขณะที่ธุรกิจอื่นอย่างโทรศัพท์มือถือระบบแอนดรอยด์ที่พัฒนาโดยกูเกิลก็ไม่เห็นว่าจะถอนตัวออกจากจีน ซึ่งเป็นตลาดโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดในโลก