xs
xsm
sm
md
lg

เกย์ซินเจียงชนะการประกวดฯที่ออสโล เผยหวั่นใจที่จะกลับบ้านเกิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เซียว ไต้ (ขวา) ตัวแทนจากประเทศจีน ในงานประกวดชาวเกย์โลก (Mr Gay World) ที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ (ภาพเอเยนซี)
เอเอฟพี-หนุ่มจีนผู้เข้าร่วมงานประกวดเกย์โลก (Mr Gay World) ที่ประเทศนอร์เวย์ เผยว่า เขาหวั่นใจที่จะกลับบ้านเกิดในซินเจียง หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกล้มงานประกวดเกย์จีนในเดือนก่อน

เสี่ยว ไต้ ชาวอุยกูร์ วัย 25 ปี ผู้จัดตั้งสมาคมป้องกันโรคเอดส์ ในอูหลู่มู่ฉี เมืองเอกของเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์มณฑลซินเจียง ได้สร้างความฮือฮาด้วยการเข้าร่วมประกวดงานเกย์โลกที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ และพิชิตรางวัลอันดับที่สี่ จากผู้เข้าร่วมการประกวดทั้งหมด 24 คน ซึ่งประกาศผลในวันที่อาทิตย์ที่ผ่านมา

เสี่ยวไต้เดินทางมายังกรุงปักกิ่งในวันพุธ(17 ก.พ.) และให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า
"ผมหวั่นใจที่จะกลับไปที่อูหลู่มู่ฉี ไม่ใช่เพราะหวาดกลัวสิ่งต่างๆที่จะเกิดกับตัวผมเอง แต่เกรงว่าสมาคมของผมอาจได้รับผลกระทบ และมันคงจะแย่แน่ๆ หากเราไม่สามารถดำเนินงานต่อได้ ซึ่งมันก็มีความเป็นได้สูงทีเดียว"

พฤติกรรมรักร่วมเพศยังเป็นประเด็นอ่อนไหวในจีน โดยทางการเคยตีตราว่าเป็นอาการทางจิตเวชและเพิ่งถูกยกเลิกไปในปี 2544 ขณะที่พวกรักร่วมเพศในจีนจำนวนมากยังไม่กล้าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงแก่เพื่อนฝูงและครอบครัว

เสี่ยว เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมการประกวดทั้งหมด 8 คน ของงานประกวดเกย์จีน (Mr Gay China) ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกล้มงานในเดือนก่อน ต่อมาเข้าได้รับเลือกจากบรรดาผู้เข้าประกวดรายอื่นๆ และผู้จัดงาน ให้เป็นตัวแทนไปประกวดงานเกย์โลกอย่างลับๆ

"ทีแรก เราประกาศว่าจะไม่ส่งตัวแทนไปประกวด เพราะเกรงว่าจะถูกขวางอีก เราจึงเลือกที่จะเปิดเผยเรื่องราวต่อสื่อมวลชน หลังจากผมขึ้นเครื่องไปนอร์เวย์แล้ว"

เสี่ยว มีกำหนดเดินทางกลับอูหลู่มู่ฉี ในวันพฤหัสฯ (18 ก.พ.) เผยว่า เขาหวังว่าการเข้าร่วมประกวดฯ จะกระตุ้นให้ชาวสีม่วงในจีนกล้าเผยตัวตนที่แท้จริงมากขึ้น รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงทัศนคติในเรื่องรักร่วมเพศของทางการจีน

อนึ่ง หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ เคยรายงานว่า ปัจจุบันกลุ่มคนรักร่วมเพศทั้งในชายและหญิงในประเทศจีนมีมากกว่า 30 ล้านคน หรือคิดเป็น 3 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโดยรวม
โปสเตอร์ประชาสัมพันธ์งานประกวดชาวสีม่วงจีน (Mr Gay China) ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกยกเลิกงานในวินาทีสุดท้ายก่อนเริ่มงาน ในวันที่ 15 ม.ค. 2553 (ภาพเอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น