เอเอฟพี-นักเคลื่อนไหวรณรงค์สิทธิมนุษยชนจีน ที่ปักหลักหลับนอนในสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น นานกว่า 3 เดือน กล่าววันจันทร์ 1 ม.ค.ว่าเขาจะยุติการประท้วงในอีกไม่กี่วันนี้ หลังจากที่ทางการจีนอนุญาตให้เขากลับแผ่นดินใหญ่ได้
เฟิง เจิ้งหู ได้อาศัยอยู่ในบริเวณสนามบินนานาชาตินาริตะตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. ปีที่แล้ว หลังจากทางการจีนห้ามเขาเข้าประเทศ อันเป็นสถานการณ์คล้ายๆ กับตัวเอกในภาพยนตร์เรื่อง “The Terminal” ของ สตีเวน สปีลเบิร์ก
เฟิงกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เขาได้ตัดสินใจที่จะกลับประเทศจีนก่อนวันตรุษจีน (14 ก.พ.)และว่าดูเหมือนทางการจีนจะยอมให้เขากลับบ้านได้แล้ว หลังจากสถานทูตจีนได้ส่งคนมาเจรจาถึงสถานะการเข้าเมืองของเขาที่สนามบินนับแต่เริ่มนอนประท้วงฯ
เฟิง ซึ่งปฏิเสธที่จะออกจากสนามบิน แม้ว่าจะมีวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นอย่างถูกต้อง บอกว่าวันพุธ เขาจะออกจากสนามบินไปเยี่ยมน้องสาวและเพื่อนของเขาในญี่ปุ่นสักสองสามวัน ก่อนบินกลับไปจีน
นักกิจกรรมสิทธิฯ วัย 55 ปี ผู้นี้ กล่าวว่า เขาถูกปฏิเสธเข้าประเทศจีน มาแล้ว 8 ครั้ง ตั้งแต่เดือนมิถุนายน จนกระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ปีที่แล้ว ยังถูก เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของสนามบินเซี่ยงไฮ้ บังคับส่งตัวกลับไปญี่ปุ่น
ทั้งนี้ องค์การนิรโทษกรรมสากล ระบุชื่อของเฟิง เป็นหนึ่งในนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนคนสำคัญ ซึ่งเคยต้องโทษจำคุกมาแล้วในอดีต
การประท้วงของเฟิง เป็นที่ฮือฮา เพราะไปเหมือนกับ ตัวเอกของหนังเรื่อง The Terminal กำกับโดย สตีเวน สปีลเบิร์ก ในปี 2547 เป็นเรื่องราวของ วิกเตอร์ นาวอร์สกี้ (ทอม แฮงก์ส) ชาวยุโรปตะวันออกที่เดินทางมายังนิวยอร์กซิตี้ ในขณะที่บ้านเกิดของเขาเกิดเหตุปฏิวัติรัฐประหาร และสูญสถานะแห่งรัฐ พาสปอร์ตที่วิกเตอร์ถือยังไม่ได้รับการรับรอง จึงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศสหรัฐฯ วิกเตอร์ตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่ในอาคารผู้โดยสาร (The Terminal) สนามบินนานาชาติจอห์น เอฟ เคนเนดี้ จนกว่าสงครามที่บ้านเกิดจะสิ้นสุดลง