เอเอฟพี-จีนตัดสินประหารชีวิตจำเลยเพิ่มอีก 4 ราย จากคดีเหตุจลาจลนองเลือดในเมืองอูหลู่มู่ฉี เมืองเอกของเขตปกครองตนเองซินเจียง เมื่อเดือนก.ค. ปีก่อน เจ้าหน้าที่รัฐบาลรายงานเมื่อวันอังคาร (26 ม.ค.)
เหตุการณ์จลาจลในอูหลู่มู่ฉี เป็นการปะทะระหว่างเชื้อชาติชาวฮั่นและชาวมุสลิมอุยกูร์ครั้งใหญ่สุดในรอบหลายสิบปีของจีน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 197 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวฮั่น และบาดเจ็บกว่า 1,600 คน และจนถึงขณะนี้มีผู้ถูกตัดสินประหารชีวิตไปแล้วถึง 26 ราย โดยมีผู้ถูกประหารฯ 5 รายในเดือนธ.ค. 9 รายในเดือน พ.ย. และอีก 8 รายในเดือนต.ค.
โฆษกของรัฐบาลเมืองอูหลู่มู่ฉี ที่ระบุเพียงว่าแซ่หลี่ เปิดเผยว่า เมื่อวันจันทร์ (25 ม.ค.) ศาลชั้นต้นเมืองอูหลู่มู่ฉี ตัดสินประหารชีวิตจำเลย 4 คน ส่วนอีก 8 คน ถูกจำคุกตลอดชีวิต และอีก 1 คน ถูกตัดสินประหารชีวิต โดยรอลงอาญา 2 ปี ซึ่งโดยทั่วไปจะถูกผ่อนผันเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิต หากจำเลยประพฤติตัวดีในช่วงเวลาดังกล่าว
โดยหนังสือพิมพ์ซินเจียง เดลี ระบุว่า จำเลยทั้ง 13 คน ถูกตั้งข้อหาก่ออาชญากรรมรุนแรงด้วยการโจมตี ทำร้ายร่างกาย ปล้นสะดม และเผาทรัพย์สินต่างๆ โดยจำเลยทั้ง 4 ที่ถูกประหารฯ ดูจากรายชื่อ ล้วนเป็นชื่อของชาวมุสลิมอุยกูร์
ในช่วงต้นเดือนม.ค. รัฐบาลจีนระบุว่า กำลังเผชิญภัยคุกคามจากกลุ่มลัทธิแบ่งแยกดินแดนในซินเจียง โดยทางการฯ จะเพิ่มงบประมาณรักษาความมั่นคงในเขตซินเจียงเป็นเกือบ 2 เท่าในปี 2553 และเพิ่มการตรวจตราบุคคล รวมทั้งจับตาการเคลื่อนไหวทางศาสนา เพื่อรับมือกับกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่