xs
xsm
sm
md
lg

กูเกิล ออกตัว! ปัดข่าวตีจากจีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์แสดงผลการค้นหาเรื่องเทียนอันเหมิน จากกูเกิลในอดีต ซึ่งล่าสุดกูเกิลเปิดเผยวันที่ 18 ม.ค.ว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา คำว่า Truth of Tiananmen (ความจริงเรื่องเทียนอันเหมิน) ถูกค้นหามากขึ้นเป็นอันดับ 2 บนเว็บไซต์ Google.cn (ภาพเอเยนซี)
เอเยนซี-กูเกิลปฏิเสธข่าวการถอนกิจการออกจากจีน หลังจากสัปดาห์ก่อน ที่ "กูเกิล" ออกมาขู่จะไม่ยอมคัดกรองผลสืบค้นในเว็บไซต์ Google.cn อีกต่อไป และว่าหากจะทำให้ไม่สามารถทำธุรกิจในจีนได้อีกต่อไปก็ยอม

สืบเนื่องจาก เมื่อวันพุธที่ 13 ม.ค. กูเกิลออกมาแถลงว่าช่วงกลางเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว ถูกมือแฮกเกอร์ที่มีฐานปฏิบัติการในจีนโจมตีระบบจีเมล์ (Gmail) เพื่อสืบข้อมูลของนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนจีน อันเป็นการโจมตีที่มีความซับซ้อนและใช้ความเชี่ยวชาญขั้นสูง นอกจากนี้ ยังรวมถึงระบบของบริษัทอื่น ๆ อีกกว่า 20 แห่ง ก็โดนเจาะฐานฯ เกี่ยวกับข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาเช่นกัน โดยกูเกิลบอกว่าจะไม่ทนรับการเซ็นเซอร์ของรัฐบาลจีน และจะไม่ยินยอมคัดกรองผลสืบค้นของ Google.cn อีกต่อไป หากจะทำให้ไม่สามารถทำธุรกิจในจีนได้อีกต่อไปก็ยอม

แต่จีนไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำขู่ของกูเกิล โดยหยาว เจียน โฆษกของกระทรวงพาณิชย์จีน บอกว่ามีหลายวิธีที่จะแก้ไขเรื่องนี้ และยืนยันว่าต้อนรับทุกบริษัทต่างชาติ ซึ่งรวมถึงกูเกิลด้วย ว่าถ้าจะมาทำธุรกิจในจีน ก็ต้องเคารพกฎหมายจีน

ล่าสุด กูเกิลได้ออกมาปฏิเสธข่าวการถอนตัวจากจีน ตลาดที่มีผู้เล่นเน็ตเพิ่มขึ้นเป็น 384 ล้านคนแล้ว พร้อมแจงในเว็บไซต์ของตนวันที่ 18 ม.ค. ว่าเบื้องต้นนี้ได้พูดคุยกับทางรัฐบาลจีนแล้ว เวลานี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบเครือข่ายภายใน และจะขอคุยกับรัฐบาลจีนในรายละเอียดต่อไป ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้

ซึ่งจนถึงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา การคัดกรองผลสืบค้นของกูเกิลยังคงทำงานตามปกติ แม้ว่าในบางส่วนของการสืบค้นอย่างคำว่า the June 4, 1989 Tiananmen crackdown ยังมีหลุดรอดให้เห็นอยู่ โดยคำว่า "Truth of Tiananmen" (ความจริงเรื่องเทียนอันเหมิน) ถูกค้นหามากขึ้นเป็นอันดับ 2 บนเว็บไซต์ Google.cn จากการเปิดเผยของกูเกิล วันที่ 18 ม.ค.

"กูเกิล" ได้เปิดตัว Google.cn เวอร์ชั่นภาษาจีนตั้งแต่ปี 2549 ด้วยการยอมรับข้อตกลงการเซ็นเซอร์ผลสืบค้นประเด็นอ่อนไหวและต้องห้ามของทางการจีนบางเรื่อง จนนำไปสู่การบาดหมางระหว่างกลุ่มสิทธิมนุษยชนและกลุ่มเจ้าหน้าที่ในอุตสาหกรรมเว็บซึ่งวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการควบคุมบนโลกอินเทอร์เน็ต โดยในตอนนั้น ทางกูเกิลชี้แจงกับ คณะกรรมการวิเทศสัมพันธ์แห่งสภาคองเกรสสหรัฐฯ ว่า เป็นการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล แม้จะไม่สามารถบอกได้ว่าการตัดสินใจนี้จะเป็นทางที่ดีที่สุดหรือไม่

ตลอด 4 ปีที่ทำธุรกิจในจีน ความตึงเครียดระหว่างกูเกิลและรัฐบาลจีนเริ่มคุกรุ่นมากขึ้นในปีที่แล้ว เมื่อจีนตำหนิและกล่าวหากูเกิลว่า เป็นผู้เผยแพร่ภาพลามกอนาจารทางเว็บไซต์ พร้อมกับบล็อกการทำงานของ Google.com, Gmail, บริการต่าง ๆ และ ยูทูบ หนึ่งในธุรกิจของกูเกิลในประเทศจีน ที่เผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายผู้ประท้วงในเหตุการณ์ซินเจียง ในเดือนมีนาคม ซึ่งทางการจีนชี้แจงว่าเป็นวิดีโอคลิปที่มีการจัดฉากสร้างขึ้น

และเมื่อเดือนพ.ย. ปี่ที่แล้ว จีนยังพบว่า กูเกิลลอบสแกนหนังสือไม่ต่ำกว่า 18,000 เล่ม ของนักเขียนจีน 570 คน โดยที่ผู้ประพันธ์ไม่ได้รับแจ้งให้ทราบ หรือได้รับเงินตอบแทน ซึ่งกูเกิลออกมายอมรับการกระทำนี้ในภายหลัง

เจมส์ แม็คเกรเกอร์ ที่ปรึกษาอาวุโส จาก แอปโก เวิร์ลไวด์ กล่าวว่า การประกาศออกไปก่อนของกูเกิลที่ว่า จะไม่ยินยอมเซ็นเซอร์ผลเสิร์ชของ Google.cn อีกต่อไป นับเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ ยังไม่เคยเห็นบริษัทไหนจะกล้าขัดขืนรัฐบาลจีนในบ้านของเขาอย่างตรงๆ เช่นนี้มาก่อน

บรรดานักวิเคราะห์ต่างมองว่า เกมนี้หากรัฐบาลจีนตอบโต้กลับด้วยการไม่ให้ความสำคัญกับคำขู่ของกูเกิลอย่างนี้ การที่กูเกิลตัดสินใจที่จะทำธุรกิจต่อในจีน ก็จะอยู่บนความเสี่ยง เพราะความสัมพันธ์ระหว่างกูเกิลกับรัฐบาลจีนที่อาจไม่เหมือนเดิม จนที่สุด อาจจะย้อนมากดดันกูเกิลเองให้ออกจากตลาดจีน

ขณะที่ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จอห์น สปีลิช โฆษกฯ อะลีบาบา หุ้นส่วนใหญ่ของยาฮู ก็ออกมาเบรกว่า การที่ยาฮูออกมาทุบโต๊ะสนับสนุนกูเกิลเป็นการหุนหันไม่ไตร่ตรองถึงข้อเท็จจริงให้ดีเสียก่อน และแจงว่า ทางอะลีบาบาไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของยาฮู

ยาฮู ถือหุ้นราวร้อยละ 40 ในอะลีบาบา กรุ๊ป เป็นเจ้าของ Taobao เว็บค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของจีน รวมถึง Alibaba.com อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ที่สุดของจีนเช่นกัน ยาฮูขายหุ้นส่วนหนึ่งของตนออกไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ยังได้รับผลประโยชน์จากหุ้นที่ถือครองอยู่

ส่วนไมโครซอฟท์ซึ่งมีความหวังอยู่ว่าจะเพิ่มตลาด Bing เสิร์ชเอนจินของตนที่มีส่วนแบ่งเสี้ยวเดียวในตลาดเน็ตจีน ก็ออกมาบอกแล้วว่ายังไม่มีแผนถอนตัวจากแดนมังกรแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ตามรายงานของ Internet consulting group iResearch วันที่ 18 ม.ค. ระบุว่า มีรายได้จากธุรกิจออนไลน์ รูปแบบต่างๆ ในจีนปีที่แล้ว อาทิจาก โฆษณา เกมส์ ช้อปปิ้ง และธุรกรรมอื่นๆ เป็นมูลค่ากว่า 74.3 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้นมากกว่า 30% และคาดปีนี้มูลค่าจะพุ่งเป็น 1.123 แสนล้านหยวน ซึ่งพอถึงปี 2556 จะทวีคูณเป็น 2.734 แสนล้านหยวน
กำลังโหลดความคิดเห็น