xs
xsm
sm
md
lg

คาดปีหน้า GDP ไต้หวันโต 4.73% ขณะตัวเลขฯ ปีนี้หดเหลือ 2.46%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพงานแสดงสินค้าไอทีโลก ที่ไต้หวันเวิลด์เทรดเซนเตอร์ ประเทศไต้หวัน ซึ่งในอดีตเคยเป็นผู้นำโลกอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนที่จีนจะพัฒนาขึ้นมาแทนที่ในปัจจุบัน (ภาพเอเจนซี)
เอเจนซี-สื่อท้องถิ่นไต้หวัน รายงานการวิเคราะห์คาดการณ์โดยสถาบันเศรษฐศาสตร์ ซินิก้า เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ว่าเศรษฐกิจไต้หวันจะเติบโตร้อยละ 4.73 ในปีหน้า ขณะที่ตัวเลขของปีนี้หดตัวอยู่ที่ร้อยละ 2.46

รายงานกล่าวว่า ตัวเลขคาดการณ์นี้ นับเป็นคำทำนายดีที่สุดสำหรับปี 2553 และใกล้เคียงกับเป้าหมายล่าสุดของรัฐบาล ที่ระบุการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของไต้หวันไว้ที่ร้อยละ 4.8

เรย์ โจว นักวิจัยจากสถาบันเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของไต้หวันนี้ กล่าวด้วยว่าอัตราการเจริญเติบโตสำหรับไต้หวันจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3.1 จากการคาดการณ์โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)

การปรับตัวอย่างรวดเร็ว ของการเงินและการค้าโลก จะทำให้สถานการณ์ของไต้หวันทั้งภายทั้งในและนอกประเทศ สามารถฟื้นคืนจากวิกฤติโลกได้ในปีหน้า

ขณะที่ หน่วยงานสำนักงบประมาณ กรมบัญชีและสถิติ คาดการณ์เป้าหมายไว้ที่ร้อยละ 4.39 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ 4.8 ของสภาวางแผนและพัฒนาเศรษฐกิจ ที่ประชุมกันเมื่อวันจันทร์ที่ 21 ธ.ค.

การคาดการณ์ล่าสุด จากหน่วยงานอื่นๆ สำหรับปีหน้า ยังรวมถึงตัวเลขคาดการณ์ ร้อยละ 4.21 ของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของไต้หวัน และร้อยละ 4.45 โดยสถาบันวิจัยไต้หวัน

ขณะที่สถาบันวิจัยโพลาริส คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 4.57 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ จุง-กว๋อ ที่คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจไต้หวันในปีหน้า จะอยู่ที่ร้อยละ 4.66

สถาบันซินิก้า ยังได้คาดการณ์เชิงลบของอัตราเติบโตในปีนี้ไว้ที่ร้อยละ 2.46 ซึ่งสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อหกเดือนก่อนราวร้อยละหนึ่ง จากตัวเลขดัชนีการส่งออก ผลผลิตอุตสาหกรรม การค้าส่ง และธุรกิจอาหารสะท้อนที่สูงขึ้น

นักเศรษฐศาสตร์ยังคงเตือนถึงภาวะถดถอยที่ยังคงเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยระบุถึงภาวะว่างงานสูง จะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อแผนเศรษฐกิจของรัฐซึ่งเป็นผลจากกรอบข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับจีน

แต่แม้ว่า ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา อัตราว่างงานในไต้หวันจะสูงเกินกว่าร้อยละ 6 โจวก็ยังคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะปรับตัวเลขอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจในปีหน้า สูงขึ้นเป็นร้อยละ 4.9
กำลังโหลดความคิดเห็น