เอเอฟพี – CIF เซ็นข้อตกลงร่วมหุ้นในกิจการเหมืองแร่และบ่อน้ำมันกับรัฐบาลกินีแล้ว โดยเจียดเงินร่วมทุนเบื้องต้นให้ 7 พันล้านเหรียญ และยังจะร่วมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในกินีอีกด้วย
นายมามุด ติอัม (Mahmoud Thiam ) รัฐมนตรีกระทรวงเหมืองแร่ของกินี เผยเมื่อวันพฤหัสบดี (15 ต.ค.) ว่า สัญญาดังกล่าวเป็นการเซ็นร่วมกันระหว่าง รัฐบาลกินี, กองทุนระหว่างประเทศของจีน หรือ CIF และบริษัทน้ำมัน Sonangol ของรัฐบาลแองโกลา ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของ CIF
“ยังจะมีการลงทุนในสาธารณูปโภคต่างๆ ที่ CIF จะนำเงินเข้ามาลงทุนอีก 7-9 พันล้านเหรียญภายในเวลา 5 ปีข้างหน้า ขึ้นอยู่กับว่าโครงการจะมีขนาดใหญ่หรือเล็กเพียงใด”
โดยการลงทุนด้านสาธารณูปโภคดังกล่าว จะรวมถึงการสร้างเขื่อนพลังน้ำ ถนน รางรถไฟ โครงการบ้านเพื่อคนยากจน โรงผลิตไฟฟ้า การประปา โรงเรียน และโรงพยาบาล นอกจากนี้ นายติอัมยังกล่าวถึงสิ่งที่ CIF จะได้ เพื่อแลกกับการลงทุนครั้งนี้ว่า
“CIF จะกลายเป็นหุ้นส่วนหลักในกิจการเหมืองแร่ของกินี ซึ่งจะประกอบกิจการภายใต้ชื่อบริษัทเหมืองแร่แห่งชาติ ซึ่งทุกบริษัทที่เกี่ยวข้องกับกิจการเหมืองแร่จะต้องเข้ามาดำเนินการภายใต้บริษัทนี้”
การเจรจาเพื่อร่วมทุนในกิจการด้านทรัพยากรธรรมชาติ ระหว่าง CIF และรัฐบาลทหารของกินี ได้เริ่มมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะประเทศในแอฟริกาตะวันตกแห่งนี้ แม้ประชากรส่วนใหญ่จะยากจน แต่ก็เป็นประเทศที่มั่งคั่งในทรัพยากรแร่ธาตุ
กินีถือเป็นผู้ส่งออกบ็อกไซต์ (หินแร่สำคัญที่อยู่ในอะลูมิเนียม) รายใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ ยังมีแร่ทองคำ ยูเรเนียม เพชร และสินแร่เหล็ก จำนวนมหาศาลด้วย
การเซ็นข้อตกลงระหว่าง CIF และกินีในครั้งนี้ เกิดขึ้นขณะที่นานาชาติกำลังเพิ่มการกดดันต่อรัฐบาลทหารของกินี ที่ใช้กำลังทหารปราบปรามประชาชนที่ต่อต้านรัฐบาลในกรุงโกนากรี เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 150 คน
นายมามุด ติอัม (Mahmoud Thiam ) รัฐมนตรีกระทรวงเหมืองแร่ของกินี เผยเมื่อวันพฤหัสบดี (15 ต.ค.) ว่า สัญญาดังกล่าวเป็นการเซ็นร่วมกันระหว่าง รัฐบาลกินี, กองทุนระหว่างประเทศของจีน หรือ CIF และบริษัทน้ำมัน Sonangol ของรัฐบาลแองโกลา ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของ CIF
“ยังจะมีการลงทุนในสาธารณูปโภคต่างๆ ที่ CIF จะนำเงินเข้ามาลงทุนอีก 7-9 พันล้านเหรียญภายในเวลา 5 ปีข้างหน้า ขึ้นอยู่กับว่าโครงการจะมีขนาดใหญ่หรือเล็กเพียงใด”
โดยการลงทุนด้านสาธารณูปโภคดังกล่าว จะรวมถึงการสร้างเขื่อนพลังน้ำ ถนน รางรถไฟ โครงการบ้านเพื่อคนยากจน โรงผลิตไฟฟ้า การประปา โรงเรียน และโรงพยาบาล นอกจากนี้ นายติอัมยังกล่าวถึงสิ่งที่ CIF จะได้ เพื่อแลกกับการลงทุนครั้งนี้ว่า
“CIF จะกลายเป็นหุ้นส่วนหลักในกิจการเหมืองแร่ของกินี ซึ่งจะประกอบกิจการภายใต้ชื่อบริษัทเหมืองแร่แห่งชาติ ซึ่งทุกบริษัทที่เกี่ยวข้องกับกิจการเหมืองแร่จะต้องเข้ามาดำเนินการภายใต้บริษัทนี้”
การเจรจาเพื่อร่วมทุนในกิจการด้านทรัพยากรธรรมชาติ ระหว่าง CIF และรัฐบาลทหารของกินี ได้เริ่มมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะประเทศในแอฟริกาตะวันตกแห่งนี้ แม้ประชากรส่วนใหญ่จะยากจน แต่ก็เป็นประเทศที่มั่งคั่งในทรัพยากรแร่ธาตุ
กินีถือเป็นผู้ส่งออกบ็อกไซต์ (หินแร่สำคัญที่อยู่ในอะลูมิเนียม) รายใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ ยังมีแร่ทองคำ ยูเรเนียม เพชร และสินแร่เหล็ก จำนวนมหาศาลด้วย
การเซ็นข้อตกลงระหว่าง CIF และกินีในครั้งนี้ เกิดขึ้นขณะที่นานาชาติกำลังเพิ่มการกดดันต่อรัฐบาลทหารของกินี ที่ใช้กำลังทหารปราบปรามประชาชนที่ต่อต้านรัฐบาลในกรุงโกนากรี เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 150 คน
