เอเอฟพี – จีนเริ่มปฏิบัติการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้กับประชาชนทั่วไปเมื่อวันจันทร์ (21 ก.ย.) ส่งผลให้จีนกลายเป็นชาติแรกในโลกที่เริ่มโปรแกรมฉีดวัคซีนต้านไวรัส H1N1 ชนิด A ให้แก่ประชาชน
จีนถือเป็นประเทศแนวหน้าที่มีความพยายามในการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยมีบริษัทอย่างน้อย 5 รายได้รับอนุญาตจากทางการให้ดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ทางการเตือนว่า ความต้องการวัคซีนอาจมีมากเกินกว่าความสามารถในการผลิต
เมื่อวันจันทร์ (21 ก.ย.) ทางสำนักงานสาธารณสุขเมืองปักกิ่งได้ประกาศผ่านเว็บไซต์ว่า ปักกิ่งจะเป็นเมืองหน้าด่านของจีนในการเริ่มโปรแกรมฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส H1N1 ชนิด A
รัฐบาลได้เริ่มโครงการด้วยการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนทั่วไป รวมถึงนักเรียนราว 100,000 คนที่จะเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองวันชาติในสัปดาห์หน้านี้ โดยวิเวียน ถัน โฆษกหญิงจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ในประเทศจีนเผยว่า “เราเชื่อว่าจีนเป็นประเทศแรกในโลกที่เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส A(H1N1) ให้แก่ประชาชนทั่วไป
ก่อนหน้านี้ทางกระทรวงสาธารณสุขเผยแผนฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน 65 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 5 ของประชาชน 1,300 ล้านคนทั่วประเทศ โดยจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 50 ทีมจำนวน 500 คนเดินสายไปตามโรงเรียนทั่วกรุงปักกิ่งเพื่อฉีดวัคซีนให้แก่นักเรียนฟรี
นอกจากนักเรียนที่เข้าร่วมฉลองวาระ 60 ปีสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนในวันที่ 1 ตุลาคมนี้แล้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ตรวจตราความสงบ ทหาร ตำรวจก็ต้องฉีดวัคซีนเช่นกัน รวมถึงเด็กอนุบาล ประถม มัธยม ครู และผู้ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจหรือปอดด้วย
ไม่เพียงแต่ปักกิ่งเท่านั้น จะมีการกระจายวัคซีนไปยัง 8 มณฑลของประเทศ อาทิ กว่างตง ซันตง เสฉวน และหูหนัน ซึ่งเคยพบการระบาดรุนแรงของเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009
ขณะที่ประเทศอื่นๆ ก็เตรียมการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนในประเทศเช่นกัน ดังเช่นออสเตรเลียก็จะเริ่มโปรแกรมฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ใหญ่ในวันที่ 30 กันยายนนี้ ขณะที่สหรัฐฯ ก็ซื้อวัคซีนจำนวน 195 ล้านโดส และจะเริ่มฉีดในเดือนหน้า เช่นเดียวกับอังกฤษที่ได้รับวัคซีนล็อตแรก 100,000 โดส และจะฉีดให้แก่ประชาชนราวต้นเดือนหน้า
ทั้งนี้ จากสถิติของกระทรวงสาธารณสุขล่าสุดเมื่อวันจันทร์ระบุว่า จีนพบผู้ติดเชื้อ H1N1 ชนิด A ทั้งสิ้น 13,262 ราย แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขรายหนึ่งคาดการณ์ว่าจะมีประชาชนนับสิบล้านคนติดเชื้อ H1N1 ในจีนภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า
ปัจจุบันเชื้อไวรัสตัวนี้ได้กระจายไปทั่วประเทศใน 31 มณฑลและเขตของจีน โดย 95% ของผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศมากกว่าจากการเดินทางไปต่างประเทศ