ไชน่าเดลี่ – เมื่อวันศุกร์ (18 ก.ย.) สำนักข่าวไชน่าเดลี่รายงานว่า พบเด็กนักเรียนกว่า 80 รายในอำเภอซ่างหัง มณฑลฝูเจี้ยน (ฮกเกี้ยน) ทางตะวันออกของประเทศ มีระดับตะกั่วในเลือดเกินกว่าระดับปกติ โดยชาวบ้านเชื่อว่า สารตะกั่วเหล่านี้ถูกปล่อยมาจากโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ซ่างหัง หวาเฉียง ซึ่งเพิ่งปิดกิจการไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
นับตั้งแต่โรงงานผลิตแบตเตอรี่ ซ่างหัง หวาเฉียง เปิดกิจการเมื่อปี 2549 ก็เริ่มปล่อยก๊าซพิษและน้ำเจือปนสารตะกั่ว ส่งผลกระทบต่อหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียง 3 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่บ้านเจียวหยาง, เทียนเซี่ย และฉงโถวในอำเภอซ่างหัง
โดยล่าสุดกรณี “เด็กตะกั่ว” ถูกเปิดเผยอีกครั้งหลังจากเมื่อปลายเดือนที่แล้วเด็กนักเรียนชื่อ ฟู่ เสี่ยวหวา เริ่มมีอาการท้องเสียและเวียนศีรษะ จึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเมืองฝูโจว เมืองเอกของมณฑลฝูเจี้ยน และผลตรวจเลือดของเด็กพบระดับตะกั่วในเลือดพุ่งสูงแตะ 144 ไมโครกรัมต่อลิตร
ตามปกติระดับตะกั่วในเลือดที่ยอมรับได้อยู่ที่ 0-100 ไมโครแกรมต่อลิตร แต่สารพิษจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อร่างกายเมื่อระดับตะกั่วขึ้นสูงไปถึง 200 ไมโครกรัมต่อลิตร ซึ่งเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ของที่นี่มีระดับตะกั่วอยู่ที่ 100-200 ไมโครกรัมต่อลิตรเลยทีเดียว
“หากโรงงานยังเปิดดำเนินการต่อไป จะต้องมีเด็กได้รับสารตะกั่วเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน” ฟู่ เหอเซิง ผู้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเจียวหยางกล่าว โดยฟู่เผยว่า โรงงานดังกล่าวอยู่ห่างจากโรงเรียนประถมและมัธยมที่มีนักเรียนกว่า 2,000 คน เพียงแค่ 800 เมตรเท่านั้น และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (14 ก.ย.) นักเรียนได้เริ่มหยุดเรียน เพราะกลัวว่าจะได้รับสารพิษเพิ่มหากไปโรงเรียน
ทั้งนี้ เหตุการณ์สารพิษตะกั่วเล่นงานเด็กครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากเมื่อเดือนสิงหาคม มีกระแสข่าวเด็กจีนได้รับสารพิษจากตะกั่วในมณฑลต่างๆ โดยมีเด็กตกเป็นเหยื่อมลพิษดังกล่าว มากกว่า 2,100 คนแล้ว ได้แก่ กรณีเด็กอย่างน้อย 615 คน ที่อยู่ใกล้โรงงานหลอมโลหะในมณฑลส่านซี มีสารตะกั่วในกระแสเลือดสูงเกิน ในสัปดาห์ต่อมา ก็มีข่าวว่า เด็กที่อาศัยใกล้โรงงานแปรรูปมังกานิส ในมณฑลหูหนัน มากกว่า 1,300 คน มีสารตะกั่วในกระแสเลือดสูงเกินเช่นกัน
ทั้งนี้ สารตะกั่วในกระแสเลือดสูงเกินเป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยทำลายระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ ทั้งอาจทำให้ความดับโลหิตสูง สูญเสียความจำ