เอเจนซี-ซินเจียงยังอึมครึม เจ้าหน้าที่ห้ามการจราจรในเมืองในคืนวานนี้ แม้ประกาศว่าสถานการณ์ตึงเครียดในเมืองกำลังสงบลงแล้ว รัฐบาลพยายามสุดฤทธิ์ขู่ “โรงสีข่าวลือ” ที่ก่อความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติ และกลุ่มจู่โจมเข็มฉีดยา ด้วยโทษหนักจำคุกยาว และโทษประหาร
รัฐบาลท้องถิ่นเขตปกครองตัวเองอุยกูร์มณฑลซินเจียง ประกาศห้ามการจราจรในวันจันทร์(7 ก.ย.) ตั้งแต่เวลา 21.00 น.-9.00 น.ในวันอังคาร(8 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจติดอาวุธยืนยามตามแยกถนนสายต่างๆทั่วเมืองอู่หลู่มู่ฉี จากรายงานข่าวของสื่อรัฐสำนักข่าวซินหัว
สถานการณ์ในอูหลู่มู่ฉี เมืองเอกของซินเจียงในวันจันทร์ดูอึมครึมจัด ผู้จัดการห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองเล่าว่าจู่ๆเจ้าหน้าที่ก็โทรศัพท์มาบอกให้ปิดห้างภายในเวลา 18.00 น. ร้านค้าต่างๆปิด ผู้คนต่างรีบกลับบ้าน ถนนร้างเงียบไปถนัด
การสั่งปิดร้านค้าเป็นไปอย่างไม่มีเหตุผล จึงเกิดกระแสข่าวลือสะพัดระลอกใหม่เกี่ยวกับศึกวุ่นวายที่อาจระเบิดขึ้นอีก
สืบเนื่องจากเหตุวุ่นวายล่าสุดที่ลุกลามจากมือมืดที่ใช้เข็มฉีดยาไล่แทงประชาชนดะตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม ที่ดูจะมุ่งเป้าไปที่ชาวจีนฮั่น บ้างพูดกันไปว่ามือมืดบางคนใส่เฮโรอีนหรือเชื้อโรคในเข็มฉีดยาด้วย จนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกลุ่มจีนฮั่นนับพันเดือดประท้วงรัฐบาลที่ไร้น้ำยาในการควบคุมสถานการณ์ จนมีผู้เสียชีวิตระหว่างการประท้วงวันพฤหัสฯ(3 ก.ย.) อีก 5 คน ต่อมาในวันอาทิตย์(6ก.ย.) รัฐบาลแถลงปลดผู้นำสูงสุดในท้องถิ่น 2 คน เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ คือ เลขาธิการคณะกรรมการพรรคฯแห่งอูหลู่มู่ฉี และหัวหน้าสำนักงานตำแหน่งประจำซินเจียง
หลังการปลดผู้นำซินเจียง บางกลุ่มยังไม่พอใจ ชาวอูหลู่มู่ฉีคนหนึ่งกล่าวว่า “ผมว่ารัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีมากกว่านี้ แต่ความจริง กลับไม่อาจควบคุมสถานการณ์วุ่นวายเลย”
ด้านนายใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์สาขาอูหลู่มู่ฉีคนใหม่ นาย จูไห่หลุน ที่เข้ามารับตำแหน่งแทนเลขาธิการคณะกรรมการพรรคฯที่ถูกปลดไปเมื่อวันอาทิตย์(6 ก.ย.) เรียกร้องการรักษาเสถียรภาพ และนโยบายมุ่งปรับปรุงชีวิตกลุ่มยากไร้
ซินหัวยังเปิดเผยว่ารัฐบาลได้ส่งหน่วยที่เรียกว่า “ผู้สร้างความสมานฉันท์” 7,000 นาย เข้าช่วยสงบศึกในซินเจียง หลังจากที่ชาวฮั่นโกรธแค้นและออกมาประท้วงตำรวจที่ไม่อาจพิทักษ์สันติราษฏรในสัปดาห์ที่แล้ว
“เจ้าหน้าที่จะเดินไปตามบ้าน อธิบายนโยบาย และไกล่เกลี่ยข้อพิพาท” หวัง เล่อเฉียน เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์สาขาเขตปกครองตัวเองซินเจียง
ซินเจียงตกอยู่ในวิกฤตตึงเครียดอย่างเลวร้ายที่สุดนับจากจลาจลระหว่างเชื้อชาติวันที่ 5 ก.ค. ที่ลุกลามจากการประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมของชาวอุยกูร์ จนเกิดการปะทะใหญ่ มีผู้เสียชีวิตร่วม 200 คน และบาดเจ็บราว 2,000 คน โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นจีนฮั่น
กลุ่มผู้สื่อข่าวเล่าว่าในบ่ายวันจันทร์ฝูงชนฮั่นแห่มายังย่านชุมชนอุยกูร์หมายจะถล่มคู่อริ หลังจากที่มีรายงานข่าวมีเหยื่อถูกแทงด้วยเข็มฉีดยาอีก แต่เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาสกัดหย่าศึกไว้ ผู้เห็นเหตุการณ์ยังเล่าว่าในวันอาทิตย์ ชาวฮั่นได้รุมตีอุยกูร์ 3 คน เจ็บสาหัส
ปราบกระแสข่าวลือ
งานหนักของรัฐบาลซินเจียงขณะนี้ ยังมีการสงบกระแสข่าวลือที่โหมกระพือความตึงเครียดไม่รู้จบสิ้น หน่วยรักษาความสงบและกฎหมายออกประกาศในเย็นวันอาทิตย์ เตือนพวก “โรงสีข่าวลือ” อาจโดนโทษจำคุกหัวโต
“ผู้ที่จงใจแพร่ข้อมูลผิดๆเกี่ยวกับเรื่องใช้เข็มฉีดยาแทงคน อาจถูกตัดสินจำคุกถึง 5 ปี และผู้ที่ใช้เข็มฉีดยาใส่สารอันตรายแทงคน อาจถูกจำคุกยาว หรือโทษประหาร”
ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุมือมืดใช้เข็มฉีดยาไล่แทงผู้คน ฝ่ายรัฐบาลก็ออกมาชี้ว่าอาจเป็นฝีมือของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนมุสลิมอุยกูร์ ซึ่งยึดถือว่าซินเจียงเป็นมาตุภูมิของชนชาติอุยกูร์
กลุ่มอุยกูร์ยังไม่พอใจการปกครองของรัฐบาลคอมมิวนิสต์ร่วม 60 ปี ที่กีดกั้นด้านศาสนา และวัฒนธรรม ที่แตกต่างอย่างลิบลับกับจีนฮั่น ในขณะที่รัฐบาลกลางออกนโยบายหนุนแรงงานอพยพจีนฮั่นเข้ามาทำกินในซินเจียง ซึ่งจัดเป็นขุมน้ำมันแห่งหนึ่ง จนปัจจุบันมีสัดส่วนประชากรฮั่นในซินเจียงสูงถึงร้อยละ 40 จากร้อยละ 6 ในปี 2492 ที่ผู้นำคอมมิวนิสต์เข้ามากุมอำนาจเหนือดินแดนอย่างเด็ดขาด กลุ่มเชื้อชาติอุยกูร์มีสัดส่วนเกือบครึ่งของประชากรทั้งหมดในมณฑล ราว 10 ล้านคน.
