ไชน่า เดลี่ – คลื่นมรสุมเศรษฐกิจจ่อพัดถล่มอุตสาหกรรมต่อเรือแดนมังกร เมื่อนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ลูกค้ารายใหญ่ทั้งในและต่างประเทศจะชะลอการสั่งต่อเรือในช่วงอีกหนึ่งปีครึ่งข้างหน้า เนื่องจากรอให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวเสียก่อน
นักวิเคราะห์และบุคคลวงในอุตสาหกรรมระบุว่า อุตสาหกรรมต่อเรือของจีน ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จะเผชิญบททดสอบอย่างแท้จริงในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า อันเป็นช่วงที่บริษัทต่อเรือรายใหญ่เล็กและขนาดกลางจำนวนมากเริ่มหยุดการผลิต หรือถึงขั้นปิดโรงงานไปเลย ขณะที่บริษัทต่อเรือรายใหญ่จะปลดพนักงาน และลดเงินเดือน
ขณะนี้บริษัทต่อเรือของจีนกำลังดำเนินการต่อเรือตามคำสั่งซื้องวดเก่า โดยบริษัทต่อเรือรายเล็กและขนาดกลางสามารถประคับประคองกิจการไปได้ เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ทว่าสิ่งที่บริษัทต่อเรือแดนมังกรกำลังวิตกกังวลก็คือยังไม่มีคำซื้อใหม่ ๆเข้ามาเลย
“เราไม่ได้ทำสัญญาฉบับใหม่ใด ๆ มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่นี่ยังไม่ใช่ช่วงเลวร้ายที่สุด ส่วนอุตสาหกรรมต่อเรือจะปรากฏสัญญาณฟื้นตัวเมื่อใดนั้น เป็นเรื่องทำนายได้ยาก” นายหู เค่ออี ผู้บริหารระดับสูง และหัวหน้าวิศวกรของอู่ต่อเรือซั่งไห่ เจียงหนัน ซึ่งเป็นบริษัทต่อเรือรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของจีนกล่าว
คำสั่งต่อเรือ ที่ทางบริษัทมีอยู่ในมือตอนนี้ ทำให้บริษัทประคองตัวต่อไปได้จนถึงครึ่งแรกของปี 2554 แต่จะเกิดปัญหาขึ้น หากไม่มีคำสั่งซื้อเรือเข้ามาใหม่ภายในสิ้นปี
ขณะที่ซั่งไห่ ไว่กั๋วเฉียว บริษัทผู้ต่อเรือระดับแถวหน้าไม่มีคำสั่งซื้อเข้ามาตั้งแต่เดือนกันยายน 2551 หากแนวโน้มยังเป็นเช่นนี้ต่อไปจนถึงต้นปีหน้า ทางบริษัทอาจต้องเริ่มปลดพนักงาน และลดเงินเดือนพนักงาน
อย่างไรก็ตาม องค์การการค้าโลก หรือ WTO ระบุว่า แม้เศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณใกล้จะฟื้นตัว แต่การค้าโลกยังคงซบเซา และคาดว่า จะปรับตัวลงร้อยละ 10 ในปีนี้
จีนแซงหน้าเกาหลีใต้ ก้าวขึ้นเป็นชาติอุตสาหกรรมต่อเรือรายใหญ่ที่สุดในโลกในปีนี้ อย่างไรก็ตาม กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสารของจีนกำลังวิตกปัญหาการผลิตเรือล้นเกิน อันเป็นผลจากการที่นักลงทุนแห่เข้ามาลงทุนในภาคดังกล่าวช่วงไม่กี่ปีก่อน ซึ่งการค้าโลกเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ปัจจุบัน เรือสำหรับขนส่งสินค้าโภคภัณฑ์ถึงราว 1 ใน 4 ของการผลิต ถูกจอดทิ้งไว้ ไม่ได้ใช้งานแต่อย่างใด