เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล – อัตราการว่างงานของฮ่องกงพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะมีคนตกงานเพิ่มมากขึ้นในปีนี้
สำนักงานสถิติและการสำรวจสำมะโนประชากรของฮ่องกงระบุว่า อัตราการว่างงานของฮ่องกงในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 5.4 จากร้อยละ 5.3 ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม เนื่องจากนายจ้างมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจในท้องถิ่น ทำให้ไม่อยากจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น โดยตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ 10 คน ซึ่งดาว โจนส์ นิวส์ไวร์ส (Dow Jones Newswires) ได้สำรวจมา
นายแม็ตทิว เฉิง รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานและสวัสดิการของเขตปกครองพิเศษฮ่องกงกล่าวว่า อัตราการว่างงานในฮ่องกงน่าจะพุ่งสูงต่อไป เนื่องจากมีผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเข้าสู่ตลาดแรงงานในช่วงฤดูร้อนนี้ ซึ่งอาจหางานทำได้ยากขึ้น เพราะบรรดานายจ้างยังรีรอ ที่จะว่าจ้าง
ด้านนักเศรษฐศาสตร์ภาคเอกชนคาดการณ์ว่า อัตราการว่างงานในฮ่องกงอาจพุ่งสูงถึงร้อยละ 6-6.5 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ ยอดผู้ได้รับการจ้างงานช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายนในฮ่องกงลดลงจากช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 8,700 คน เหลือ 3,500,000 คน และกำลังแรงงานในฮ่องกงลดลง 5,500 คน เหลือ 3,700,000 คน
อัตราการว่างงานในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายนจัดเป็นอัตราการว่างงาน ซึ่งสูงที่สุด นับตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน ปี 2548 เป็นต้นมา โดยในช่วงนั้น อัตราการว่างงานก็สูงถึงร้อยละ5.4 เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นายเจิง จวินฮวา รัฐมนตรีคลังของฮ่องกงระบุเมื่อเดือนนี้ (ก.ค.) ว่า เศรษฐกิจของฮ่องกงอาจหยุดการหดตัวลงในช่วงไตรมาส 2 และจีดีพีตลอดทั้งปีอาจหดตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์กันก่อนหน้า เนื่องมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน และการฟื้นตัวของภาคส่งออก
ทั้งนี้ จีดีพีของฮ่องกงในช่วงไตรมาสแรกลดลงร้อยละ4.3 จากช่วงไตรมาส 4 ของปี2551 โดยรัฐบาลคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจฮ่องกงจะหดตัวลงร้อยละ 5.5-6.5 ในปีนื้
