เอเอฟพี – สำนักงานปริวรรตเงินตราจีน (SAFE) เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (9 มิ.ย.) ระบุว่า จะผลักดันมาตรการสนับสนุนเพื่ออำนวยความสะดวกแก่บริษัทจีนให้ไปลงทุนยังต่างประเทศมากขึ้น
สำนักงานปริวรรตเงินตราระบุ จะอนุมัติให้บริษัทจีนที่มีคุณสมบัติสามารถนำเงินทุนสะสมทั้งที่เป็นเงินสกุลหยวนและสกุลเงินต่างประเทศ มาซื้อเงินตราต่างประเทศ เพื่อใช้เป็นกองทุนอุดหนุนกิจการในต่างประเทศ
แม้ที่ผ่านมาบริษัทจีนได้รับอนุมัติให้ใช้เงินทุนสะสมอัดฉีดธุรกิจในต่างประเทศได้ แต่กฎระเบียบใหม่นี้นับเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามผลักดันให้กระบวนการอนุมัติบริษัทไปลงทุนยังต่างแดนเป็นไปโดยง่ายขึ้น และกระตุ้นให้บริษัทไปลงทุนภายนอกมากขึ้นด้วย
โดย SAFE กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่า กฎระเบียบใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้
จีนตั้งเป้าขยายเงินสนับสนุนธุรกิจไปลงทุนต่างประเทศด้วยสินทรัพย์ทางการเงินต่างประเทศ 2.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปลายปี 2552 ซึ่งรวมถึงทุนสำรองเงินตราต่างประเทศด้วย
ทั้งนี้ ปัจจุบันการลงทุนยังต่างประเทศของจีนยังนับว่าไม่มากนักเมื่อเทียบกับเงินลงทุนจากต่างชาติที่ไหลเข้ามาในประเทศ อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยปีที่แล้วจีนลงทุนต่างประเทศ52,200 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มจาก 26,500 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2007 เกือบเท่าตัว
การผ่อนปรนกฎระเบียบการลงทุนต่างประเทศของรัฐบาลจีนเป็นเพียงความพยายามหนึ่งเพื่อแสวงหาความเท่าเทียม เนื่องจากบริษัทจีนเผชิญหน้ากับอุปสรรคในการลงทุนครั้งใหญ่หลายครั้ง ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทเหมืองแร่ยักษ์ใหญ่ของโลก ริโอ ทินโต เพิ่งประกาศล้มแผนการขายหุ้นให้แก่ไชนาลโคมูลค่า 19,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากไม่สามารถต้านทานกระแสชาวออสซี่ต่อต้านจีนเข้ามาขยายอิทธิพลในภูมิภาค
และก่อนหน้านี้จีนยังมีความพยายามควบคุมบริษัทจีนไปลงทุนยังต่างประเทศ เนื่องจากบริษัทจีนที่ไปลงทุนต่างชาติหลายแห่งเผชิญปัญหาขาดทุนอย่างหนักท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
โดยมูลค่าการลงทุนโดยตรงต่างประเทศ (Foreign Direct Investment – FDI) ในเดือนมีนาคมคิดเป็น 84,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือลดลง 9.5 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา แต่ยังกระเตื้องขึ้นกว่าช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ที่ลดลง 26% และ 16% ตามลำดับ