เผยทิเบตกำลังถูกภาวะโลกร้อนคุกคามหนัก!

เอเอฟพี – สำนักงานอุตุนิยมวิทยาจีนประกาศเตือนในวันพุธ( 6 พ.ค.) ว่าเขตปกครองตนเองทิเบตกำลังถูกภาวะโลกร้อนคุกคาม ซึ่งจะเป็นสาเหตุให้เกิดภัยแล้งและอุทกภัยที่อาจส่งผลรุนแรงต่อประชาชนนับล้านคนในภาคตะวันตกของประเทศ

สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างคำสัมภาษณ์ของเจิ้ง กั๋วกวง ผู้อำนวยการสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติจีนว่า “ผลกระทบของภาวะโลกร้อนเป็นปัจจัยเร่งให้ธารน้ำแข็งหดตัว และน้ำจากการละลายของธารน้ำแข็งจะไหลท่วมเขตปกครองทิเบต…และถ้าหากอุณหภูมิยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง ประชาชนนับล้านในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ จะเผชิญกับอุทกภัยในระยะสั้น และประสบกับภัยแล้งในระยะยาว”

นอกจากนี้ เจิ้งยังเพิ่มเติมว่าอุณหภูมิในเขตปกครองตนเองทิเบตสูงขึ้นเฉลี่ย 0.32 องศาเซลเซียสต่อทศวรรษ นับตั้งแต่มีการบันทึกในพ.ศ. 2014 และเป็นตัวเลขที่สูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของจีนซึ่งอยู่ที่ 0.05 – 0.08 องศาเซลเซียส

รายงานระบุว่า อุณหภูมิของทิเบตที่สูงขึ้นทุกๆ 10 ปี ยังสูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกซึ่งอยู่ที่ 0.2 องศาเซลเซียส

ขณะเดียวกันเจิ้งกล่าวว่า พื้นที่ราบสูงทิเบตที่มีความสูงมากกว่า 4,000 เมตร เป็นพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวมากที่สุดต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ

อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของอุทกภัยและการขาดแคลนน้ำ เนื่องจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วยังเป็นสาเหตุของภัยธรรมชาติอื่นๆ เช่น ดินถล่ม และเมื่อชั้นดินเยือกแข็ง (permafrost) ละลายจะเป็นอันตรายต่อทางรถไฟในนครลาซา เมืองเอกของทิเบต

ที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์เตือนว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้นเรื่อยๆ กำลังเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมของทิเบต ทั้งธารน้ำแข็งละลาย แนวหิมะลดน้อยลง และส่วนที่เป็นทะเลทรายเพิ่มจำนวนขึ้น โดยดินแดนเทือกเขาอันห่างไกลอย่างทิเบต กำลังกลายเป็นเครื่องวัดถึงความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมโลกว่ากำลังเผชิญภาวะเลวร้ายอันมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น