xs
xsm
sm
md
lg

วิกฤตศก.ไม่ระคายอุตฯจอเงิน บ็อกซ์ออฟฟิศจีนถล่มทลาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพยนตร์เรื่อง สามก๊ก ตอนโจโฉแตกทัพเรือ (ซ้าย) และ พลิกตำนาน โปเยโปโลเย
เอเอฟพี – แม้จีนจะได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของแผ่นผีซีดีเถื่อน แต่รายได้ฉายหนังในแผ่นดินใหญ่ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาปรากฏว่ากลับทำยอดถล่มทลาย คาดเป็นเพราะผู้ชมวัยกระเตาะเพิ่มจำนวน อีกทั้งตั๋วหนังจีนมีราคาสูงขึ้น

วิกฤตเศรษฐกิจดูเหมือนจะส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์จีน โดยเจ้า จิง ผู้บริหารฝ่ายการตลาดจากบริษัทวั่นต๋า กรุ๊ป ผู้ประกอบการธุรกิจโรงภาพยนตร์ในปักกิ่งเผยว่า “ความจริงแล้ววิกฤตครั้งนี้ถือเป็นโอกาสทองมากกว่า เพราะว่าทุกคนต่างก็เครียดกับวิกฤตเศรษฐกิจ จึงได้หาทางคลายเครียดด้วยการไปดูภาพยนตร์แทน”

ปัจจุบันบริษัทวั่นต๋ามีโรงภาพยนตร์ในเครือทั้งสิ้น 40 โรงใน 30 เมือง โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะขยายสาขาเป็น 100 แห่งภายในปี 2553 นี้

จากข้อมูลของวั่นต๋าระบุว่า ผู้ชมภาพยนตร์ในปักกิ่งมีอายุตั้งแต่ 20-40 ปี ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชนชั้นกลางที่มีการศึกษาและฐานะดี ดังเช่น เผิง เหล่ย วัย 30 ปี ซึ่งทำงานเกี่ยวกับสื่อ ก็เป็นหนึ่งในผู้ชมภาพยนตร์และกล่าวว่า เขารู้สึกมีความสุขมากในการจ่ายเงิน 50 หยวน (ราว 250 บาท) เพื่อชมภาพยนตร์เรื่องใหม่ในโรงหนัง “มาดูที่โรงภาพยนตร์ได้บรรยากาศมากกว่านั่งดูหนังอยู่ที่บ้านเยอะเลย” เขากล่าว ถึงแม้ว่าแผ่นดีวีดีละเมิดลิขสิทธิ์จะมีราคาแค่ 1 ใน 10 ของราคาตั๋วหนัง แต่ก็ไม่ได้อรรถรสอย่างที่มานั่งชมในโรง

เผิง คอหนังฟอร์มยักษ์และตลกของฮอลลิวูดยังกล่าวว่า ภาพยนตร์จีนปัจจุบันเริ่มมีเนื้อหาน่าติดตามชมและเป็นมืออาชีพมากขึ้น “เมื่อก่อนหนังจีนไม่ใช่หนังตลาด แต่ตอนนี้พวกมันตอบสนองรสนิยมของผู้ชมมากขึ้น”

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนยังได้รับการคุ้มครองจากระบบโควตา ซึ่งอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาฉายได้แค่ 20 เรื่องต่อปีเท่านั้น

ในช่วงปีที่ผ่านมาผู้กำกับจีนอย่าง จาง อี้โหมว, เฉิน ข่ายเกอ, เฝิง เสี่ยวกัง และจอห์น วู ต่างก็เข็นผลงานกำกับระดับฮอลลิวูดออกมาสู่สายตาประชาชน โดยเฉพาะภาพยนตร์เรื่อง “สามก๊ก ตอน โจโฉแตกทัพเรือ” ของจอห์นวู ซึ่งลงทุนมากเป็นประวัติศาสตร์ของเอเชีย ก็คว้ารายได้จากบ็อกซ์ออฟฟิศมากกว่า 300 ล้านหยวน (44 ล้านเหรียญสหรัฐ)

ทั้งนี้เมื่อปีที่แล้วจีนทำรายได้จากการฉายหนังทั่วประเทศแตะ 4,200 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 27% จากปี 2550 และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าเศรษฐกิจจะฝืดเคืองก็ตาม โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2552 รายได้จากการฉายหนังเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% มาอยู่ที่ 1,250 ล้านหยวน และช่วงมกราคมที่ผ่านมามีชาวจีนเข้าโรงหนังมากกว่า 20 ล้านคน ซึ่งมากกว่า 9.35 ล้านในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามสถิติล่าสุดจากคณะกรรมการภาพยนตร์ โทรทัศน์ และวิทยุระบุ

จากแนวโน้มอันสดใสข้างต้น เจ้า จิง ผู้บริหารฝ่ายการตลาดจากบริษัทวั่นต๋า กรุ๊ป ผู้ประกอบการธุรกิจโรงภาพยนตร์ในปักกิ่งเปิดเผยว่า เขากำลังยุ่งกับการวางแผนการขยายธุรกิจ โดยพื้นที่ที่จะขยายธุรกิจต่อไปก็คือรอบนอกเมืองใหญ่อย่าง ปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้ รวมทั้งเมืองขนาดกลาง ซึ่งยังมีช่องว่างให้บริษัทขยายธุรกิจอีกมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น