เอเอฟพี – ทางการจีนสั่งรัฐวิสาหกิจทบทวนการขยายการลงทุนในต่างประเทศ พร้อมแนะให้ยกเลิกสัญญาการลงทุนที่มีอัตราเสี่ยงสูง หลังจากรัฐวิสาหกิจรายใหญ่เรียงแถวขาดทุน
พร้อมกันนี้ แถลงการณ์ของคณะกรรมการบริหารและจัดการสินทรัพย์ของรัฐบาลจีน ที่ออกมาเมื่อวานนี้ (24 มีนาคม) ยังแนะนำให้ รัฐวิสาหกิจทั้งหลายได้ทบทวนเกี่ยวกับอนาคต ทางเลือก และการเปลี่ยนแปลงสัญญา รวมทั้งทบทวนการลงทุนผ่านธนาคาร และอัตราเสี่ยงที่อาจเกิดจากการลงทุนด้วย
“การลงทุนทางการเงินถือเป็นดาบสองคม เพราะหากลงทุนอย่างไม่เหมาะสมก็อาจขาดทุนอย่างมหาศาล ” แถลงการณ์ในตอนหนึ่งได้กล่าวไว้
ในแถลงการณ์ระบุอีกว่า รัฐวิสาหกิจบางแห่งได้เก็งกำไรการลงทุนทางการเงิน และนั่นถือเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของบริษัทและความปลอดภัยของทรัพย์สินของรัฐบาล และว่า สัญญาการลงทุนนั้น ไม่ควรมีมูลค่าเกิน 90 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าทรัพย์สินของบริษัท และควรเป็นการลงทุนระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี หรืออาจจะสั้นกว่านั้น
แถลงการณ์ของคณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าว ที่ออกมาเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้เรียก ร้องให้รัฐวิสาหกิจทุกแห่งส่งรายงานการลงทุนภายในวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา โดยข้อเรียกร้องดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากรัฐวิสหากิจขนาดใหญ่บางแห่งประสบภาวะขาดทุนจากการเก็งกำไรในการลงทุน
ทั้งนี้ บริษัทในเครือซิติก แปซิฟิค ได้รายงานผลการลงทุนเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาว่า ประสบภาวะขาดทุนจากการเก็งกำไรค่าเงินถึง 18.6 พันล้านเหรียญฮ่องกง (ราว 84 พันล้านบาท) ขณะที่สายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ ได้รายงานการขาดทุนในปี 2551 ว่ามีถึง 6.2 พันล้านหยวน (ราว 28.5 พันล้านบาท) อันเนื่องมาจากสัญญาซื้อขายน้ำมันล่วงหน้า