เอเยนซี - ผลสำรวจชี้บริษัทต่างชาติหลายรายในประเทศยังคงปฏิเสธว่าจ้างชาวจีนผู้เป็นพาหะตับอักเสบบี หลังจากทางการประกาศกฎหมายส่งเสริมการจ้างงานเมื่อปีที่แล้ว
หนังสือพิมพ์เซี่ยงไฮ้ เดลี่ รายงานเมื่อวันศุกร์( 6 มี.ค.) ถึงผลสำรวจของศูนย์อี้เหรินผิง องค์กรเอกชนหรือเอ็นจีโอในกรุงปักกิ่ง ว่า ร้อยละ 84 ของบริษัทต่างชาติระบุให้ผู้สมัครงานต้องเข้ารับการตรวจและเปิดเผยข้อมูลไวรัสตับอักเสบบีต่อนายจ้าง ขณะที่อีกร้อยละ 44 ปฏิเสธการจ้างงานชาวจีนผู้เป็นพาหะ มีเพียงร้อยละ 5 ที่ไม่เรียกร้องผลการตรวจ
ศูนย์อี้เหรินผิง ดำเนินการสำรวจบริษัทต่างชาติ 92 แห่ง ใน 20 เมืองหลักของกรุงปักกิ่ง ,นครเทียนจิน, เขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำไข่มุก และเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง เมื่อเดือนตุลาคม ถึง เดือนธันวาคม ปี 2551
อย่างไรก็ตาม ศูนย์อี้เหรินผิงระบุว่า ผลสำรวจในปี 2550 ก่อนหน้าที่รัฐบาลจะประกาศใช้กฎหมายส่งเสริมการจ้างงาน พบว่า ร้อยละ 77 ของบริษัทต่างชาติปฏิเสธการจ้างงานชาวจีนที่เป็นพาหะของตับอักเสบบี แต่สำหรับปีนี้ ผู้ประกอบการปฏิเสธการจ้างงานคนกลุ่มนี้เหลือเพียง ร้อยละ 44 ขณะเดียวกันบริษัทต่างๆ อ้างว่าผลการตรวจโรคไม่ส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน
“จากสถิติที่ลดลงแสดงให้เห็นว่าหลังจากประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวทำให้คนกลุ่มนี้ได้รับการจ้างงานมากขึ้น”
สำหรับบริษัทที่ไม่เรียกร้องให้ผู้สมัครงานทำการตรวจได้แก่ ไอบีเอ็ม (IBM), 3M, โกลด์ เซอร์ซุท อิเล็กทรอนิกส์ (Gold Circuit Electronics) , ซันแทก อิเล็กทรอนิกส์ (Santak Electronics) และคาร์ฟู (Carrefour)
ทั้งนี้ในปี 2551 จีนบังคับใช้กฎหมายห้ามไม่ให้นายจ้างภายในประเทศอ้างการป่วยเพื่อปฏิเสธการจ้างงานในผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบี
องค์การอนามัยโลกระบุว่า โรคไวรัสตับอักเสบบี แพร่กระจายผ่านการสัมผัสเลือดที่มีเชื้อ,การมีเพศสัมพันธุ์กับผู้ติดเชื้อ หรือจากมารดาสู่ทารกในระหว่างตั้งครรภ์