รอยเตอร์ – ไบรอัน เดอร์กิน รองประธานของบริษัทแมคโดนัลด์ส์ คอร์ป ร้านอาหารจานด่วนรายใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยว่า บริษัทเล็งเห็นโอกาสขยายธุรกิจในแผ่นดินใหญ่ซึ่งเป็นตลาดที่โตเร็วที่สุดของบริษัท ดังนั้นจึงวางแผนจะเปิดร้านสาขาเพิ่มอีก 500 สาขาภายใน 3 ปี ว่าจ้างพนักงานร้านใหม่แห่งละ 50-60 คน
เดอร์กินระบุว่า ธุรกิจแมคโดนัลด์ในจีนไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค เนื่องจากบริษัทได้ดำเนินมาตรการเพื่อรักษาผู้บริโภคแล้ว
“ลูกค้าของแมคโดนัลด์ เวลาที่พวกเขาออกมาชอปปิ้ง พวกเขาอาจจะไม่ได้ซื้อเฟอร์นิเจอร์หรือเสื้อผ้า แต่ยังไงเสียพวกเขาต้องหิว” เดอร์กินกล่าวอย่างมั่นใจ พร้อมกล่าวเสริมว่า “บริษัทเราได้ออกผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ อย่างเช่น บริการส่งถึงบ้าน 24 ชั่วโมง, มื้ออาหารราคาพิเศษ, ชุดอาหารเช้า ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่ช่วยกระตุ้นยอดขายของเรามากขึ้น”
นอกจากนี้ร้านสาขาในจีนยังมีโปรโมชั่นที่เรียกว่า “มื้อผสมราคาถูกสุดเป็นประวัติการณ์” โดยเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนแมคโดนัลด์ได้คลอดโปรโมชั่นลดราคาของหลายๆ เมนูลงกว่าครึ่งจนมาอยู่ระดับเดียวกับเมื่อ 10 ปีก่อนหรืออาจถูกกว่าด้วยซ้ำ เมนูยอดฮิตที่ลดราคาก็ได้แก่ ฟิเลต-โอ-ฟิช, ดับเบิล ชีสเบอร์เกอร์, แมคนักเก็ตส์, แมคพัฟฟ์ และสินค้าตัวใหม่ หมาล่า พอร์ค เบอร์เกอร์
โดยปัจจุบันแมคโดนัลด์มีร้านสาขาในจีนทั้งสิ้น 2,012 แห่งจากสาขาทั่วโลกกว่า 30,000 แห่ง เฉพาะเมื่อปี 2551 ก็เปิดร้านสาขาเพิ่มแล้ว 146 แห่ง
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยักษ์อาหารจานด่วนได้เปิดเผยยอดขายเดือนมกราคมของร้านสาขาทั่วโลกที่เปิดมาไม่ต่ำกว่า 13 เดือน เพิ่มขึ้น 7.1% ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
