เว็ปไซต์วิทยุแห่งชาติจีน - หลังจากประชาชนนับพันคนในเมืองหลงหนาน มณฑลกันซู่ ได้ลุกฮือประท้วงและเผาที่ทำการพรรคคอมมิวนิสต์ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา บัดนี้สถานการณ์ได้เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว โดยสื่อมวลชนบางแห่งได้เผยแพร่ภาพเหตุจราจลครั้งนี้แล้ว
รัฐบาลเมืองหลงหนาน มณฑลกันซู่ ได้แถลงข่าวเมื่อบ่ายวานนี้ว่า เหตุครั้งนี้มีอาคารถูกเผา 110 หลัง รถยนต์ถูกเผาและทุบ 22 คัน ตำรวจและผู้สื่อข่าว 74 รายได้รับบาดเจ็บ โดยทางการได้ควบคุมผู้กระทำผิดกฎหมายไว้ดำเนินคดี 30 คน
เหตุวุ่นวายครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17-18 พ.ย. โดยประชาชนส่วนหนึ่งที่ไม่พอใจเรื่องการเวนคืนที่ดิน ได้เข้าล้อมที่ทำการพรรคคอมมิวนิสต์และที่ทำการรัฐบาลเมือง พร้อมทั้งทำลายข้าวของ เผาทำลายอาคารและรถยนต์
เหตุวุ่นวายดำเนินไปเกือบครึ่งค่อนวัน เจ้าหน้าที่ระดับมณฑล พร้อมทั้งตำรวจนับพันนายได้ลงพื้นที่ควบคุมเหตุการณ์ โดยขั้นแรก ตำรวจได้เข้ายึดที่ทำการรัฐบาลคืน พร้อมผลักดันกลุ่มผู้ประท้วงให้ไปรวมตัวกันบนถนน
ในอีกด้านหนึ่งรัฐบาลเมืองได้ส่งเจ้าหน้าที่ 1820 คน แบ่งเป็นกลุ่มๆเข้าไปในตัวอำเภอและหมู่บ้านเพื่อเจรจากับชาวบ้าน โดยตกลงจะให้ค่าชดเชย หรือ จัดหาที่อยู่ใหม่ให้กับชาวบ้านที่ถูกเวนคืนอย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ความวุ่นวายก็ยังดำเนินไป เพราะมีชาวบ้านบางส่วนยังไม่พอใจ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม พร้อมทั้งควบคุมตัวผู้ก่อความวุ่นวายไว้ 110 คน และหลังจากสอบปากคำจึงปล่อยตัวผู้ที่ไม่ได้กระทำผิดขั้นรุนแรงไป โดยท้ายสุดได้ควบคุมผู้กระทำผิดกฎหมายไว้ดำเนินคดี 30 คน
เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาที่ดิน ยังคงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับประเทศจีน โดยอาจนำมาซึ่งความวุ่นวายทางสังคมได้ โดยเฉพาะเมื่อชาวบ้านรู้สึกว่าถูกเจ้าหน้ารัฐเอารัดเอาเปรียบ อย่างไรก็ตาม นักวิชาการส่วนหนึ่ง มองว่า รัฐบาลจีนและพรรคคอมมิวนิสต์ โดยเฉพาะในระดับมณฑลขึ้นไป เริ่มเรียนรู้วิธีการที่จะคลี่คลายความขัดแย้งกับประชาชนอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การใช้จิตวิทยามวลชน ใช้สื่อสารมวลชนเพื่อให้ข้อเท็จจริง รวมทั้งการปรับทัศนคติของเจ้าหน้าที่รัฐให้ใช้ความอดกลั้นและเจรจากับผู้ก่อความไม่สงบ
ทั้งนี้ กันซู่ เป็นมณฑลที่ติดอันดับยากจนที่สุดในจีน ตั้งอยู่ทางตะวันตก ใกล้เคียงกับมณฑลเสฉวนและยังได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.0 ริกเตอร์ เมื่อ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมาด้วย