人(rén) อ่านว่า เหริน แปลว่า คน
非(fēi) อ่านว่า เฟย แปลว่า ไม่ใช่
圣(shèng) อ่านว่า เซิ่ง แปลว่า ศักดิ์สิทธิ์
贤(xián) อ่านว่า เสียน แปลว่า ผู้มีเกียรติ
孰(shú) อ่านว่า สู แปลว่า ใคร
能(néng) อ่านว่า เหนิง แปลว่า สามารถ
无过(wúguò) อ่านว่า อู๋กั้ว แปลว่า ไม่เคยผิดพลาด
อ๋องจิ้นหลิงกง มีนิสัยโหดร้าย มักจะหาเหตุสั่งประหารชีวิตผู้คนอยู่เสมอ ครั้งหนึ่ง พ่อครัวได้นำซุปอุ้งตีนหมีที่ตุ๋นยังไม่ได้ที่มาถวาย จึงถูกอ๋องประหารโหดต่อหน้าธารกำนัลทันที
ซากศพของพ่อครัวโชคร้ายถูก 2 ขุนนางตงฉินเจ้าตุ้นและซื่อหลี่พบเข้า เมื่อสืบสาวราวเรื่องทั้งหมด 2 ขุนนางรับไม่ได้กับความเหี้ยมโหดของอ๋องจิ้นหลิงกง จึงตัดสินใจเข้าวังเพื่อไปสั่งสอนอ๋องโฉด
ขุนนางซื่อหลี่ เป็นผู้ไปขอเข้าพบอ๋องจิ้นหลิงกงก่อน เมื่อไปถึงอ๋องเห็นสีหน้าของขุนนางก็ทราบว่ามาด้วยเรื่องที่ตนสั่งฆ่าพ่อครัวเป็นแน่ จึงแกล้งมองไม่เห็นขุนนางซื่อ จนกระทั่งขุนนางซื่อก้าวเข้ามาในตำหนัก อ๋องจิ้นหลิงกงค่อยชำเลืองมองดูและกล่าวว่า “เราทราบว่าท่านมาเรื่องใด เรารู้ว่าเราทำผิด และจะพยายามปรับปรุงตัว” เมื่อขุนนางได้ยินก็มีท่าทีอ่อนลง กล่าวว่า “ไม่มีใครไม่เคยผิดพลาด ทำผิดก็ปรับปรุงตัวจึงเป็นสิ่งที่ดี หากท่านอ๋องยอมรับคำตักเตือนของหม่อมฉัน ก็ถือว่าท่านเป็นผู้ปกครองที่ดี”
อย่างไรก็ตาม อ๋องจิ้นหลิงแท้จริงไม่ได้สำนึกผิด ยังคงมีพฤติกรรมโหดร้ายป่าเถื่อนเช่นเดิม ครั้งนี้ขุนนางเจ้าต้วนจึงมาขอเข้าเฝ้าเพื่อตักเตือน แต่ไม่เพียงไม่ฟัง อ๋องโฉดยังสั่งคนไปลอบฆ่าขุนนางผู้นี้ ทว่านักฆ่าไม่เพียงไม่ยินยอมสังหารขุนนางตงฉินผู้นี้ ทั้งยังยอมฆ่าตัวตายแทน เมื่อจิ้นหลิงกงเห็นว่าแผนแรกไม่สำเร็จ จึงเปลี่ยนวิธีการ โดยเชิญขุนนางเจ้ามาร่วมงานเลี้ยงในวัง และวางแผนลอบสังหารเขากลางดึก แต่สุดท้ายก็มีคนลักลอบช่วยปล่อยขุนนางเจ้าออกมาก่อน แผนชั่วของอ๋องรัฐจิ้น จึงล้มเหลวอีกครั้ง
ภายหลังอ๋องจิ้นหลิงกงถูกชายที่มีนามว่าเจ้าชวน สังหารในที่สุด
สุภาษิต “เหรินเฟยเซิ่งเสียน สูเหนิงอู๋กั้ว” แปลว่า มนุษย์มีใช่ผู้วิเศษ ดังนั้นย่อมต้องเคยผิดพลาด