จีนเดินหน้าแสวงหาน้ำมันต่างแดน ล่าสุดเจรจาซื้อหุ้นแหล่งน้ำมันแองโกล่า

เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล – Cnooc วิสาหกิจรัฐของจีนกำลังเจรจาเข้าซื้อสินทรัพย์ก๊าซธรรมชาติในแถบแคริบเบียน และจับมือกับไชน่า ปิโตรเคมิคอล คอร์ป หรือซิโนเปก เจรจาเพื่อซื้อหุ้นในแหล่งน้ำมันแองโกล่า

ความพยายามล่าสุดของวิสาหกิจรัฐด้านพลังงานของจีนครั้งล่าสุดนี้มีขึ้น หลังจาก ซิโนเปก ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของไชน่า ปิโตรเลียม แอนด์ เคมิคอล คอร์ป เพิ่งบรรลุข้อตกลงซื้อบริษัททันกันยิก้า ออยล์ (Tanganyika Oil Ltd.) ของแคนาดา มูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยบริษัทดังกล่าวมีแหล่งน้ำมันอยู่ในซีเรีย ขณะที่บริษัทเหมืองแร่รายอื่น ๆ ของจีนก็ประสบความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการด้านทรัพยากรธรรมชาติในต่างแดน

แหล่งข่าววงในระบุเมื่อวันพุธ (1 ต.ค.2551) ว่า Cnooc และ ซิโนเปกกำลังใกล้บรรลุข้อตกลงเข้าซื้อหุ้น ซึ่งถือโดยบริษัทมาราทอน ออยล์ คอร์ป (Marathon Oil Corp.) ในแหล่งน้ำมันในประเทศแองโกล่า หลังจากตกลงราคาซื้อที่ประมาณ 1,800 ล้านดอลลาร์ โดยแหล่งข่าววงในยังระบุว่า อาจต้องใช้เวลา 2 สัปดาห์เพื่อบรรลุข้อตกลงให้เรียบร้อย เนื่องจากยังต้องเจรจารายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงซื้อขายแหล่งน้ำมันน้ำลึกบล็อก 32 ร้อยละ 20

ในการทำข้อตกลงครั้งนี้ ยังต้องรอการอนุมัติจากรัฐบาลจีนและแองโกล่าอีกด้วย ก่อนจะมีการบรรลุข้อตกลงและประกาศให้ทราบ

นอกจากนั้น Cnooc ยังอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อสินทรัพย์ก๊าซธรรมชาติในราคาราว 300 ล้านดอลลาร์-700 ล้านดอลลาร์ในตรินิแดด และโทบาโก ซึ่งปัจจุบันบริษัททาลิสมัน เอ็นเนอร์จี้ (Talisman Energy Inc.) เป็นเจ้าของ

ทั้งนี้ แองโกล่าเป็นชาติผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ให้แก่จีน และเป็นชาติที่ได้รับเงินกู้ก้อนใหญ่และการลงทุนจากจีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

แหล่งน้ำมันบล็อก 32 มีบ่อน้ำมันที่ได้รับการสำรวจและขุดเจาะไปแล้ว 11 บ่อ ปัจจุบันดำเนินการโดยบริษัทโทเทลของฝรั่งเศส ซึ่งถือหุ้นร้อยละ 30 โซนันโกล บริษัทน้ำมันของรัฐบาลแองโกล่าถือหุ้นร้อยละ 20 ขณะที่บริษัทเอ็กซอนโมบิลของสหรัฐฯ ถือหุ้นร้อยละ 15 และกัลพ์ เอ็นเนอร์เจีย บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของโปร์ตุเกสถือหุ้นร้อยละ 5 สำหรับบริษัทมาราทอนนั้น หลังจากขายหุ้นให้จีนแล้ว ยังคงมีหุ้นร้อยละ10 อยู่ในแหล่งน้ำมันบล็อก 32 อยู่

ทั้งนี้ ซิโนเปก และ Cnooc เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 และ 3 ของจีนเมื่อพิจารณาจากกำลังการผลิต โดยเป็นรองไชน่า เนชั่นแนล ปิโตรเลียม คอร์ป โดยบริษัทน้ำมันของจีนยังคงแสวงหาแหล่งน้ำมันในต่างแดนอย่างไม่ลดละ ในขณะที่การผลิตน้ำมันในประเทศอยู่ในภาวะนิ่ง ส่วนปริมาณก๊าซธรรมชาติของจีนมีไม่เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น

ขณะเดียวกันเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวยังกดดันให้มูลค่าของแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติบางแห่งลดลงอีกด้วย ซึ่งเท่ากับเป็นการเปิดโอกาสที่ดีให้กับจีน

จากข้อมูลของเดียโลจิก (Dealogic) บริษัทบริการด้านข้อมูลระบุว่า ในปีนี้ จีนบรรลุข้อตกลงทั้งหมดรวมทั้งสิ้น 26,300 ล้านดอลลาร์สำหรับอุตสาหกรรมภาคน้ำมัน,ก๊าซธรรมชาติ และเหมืองแร่

นอกจากนั้น ยังมีข้อสังเกตสำหรับการเจรจาข้อตกลง2ฉบับของจีนในการเข้าซื้อสินทรัพย์ก๊าซธรรชาติในแถบแคริบเบียน และซื้อหุ้นในแหล่งน้ำมันแองโกล่า โดยมีความแตกต่างจากกลยุทธ์ในต่างแดนของบริษัทน้ำมันจีนตามที่เคยปฏิบัติมา นั่นคือการเจรจาซื้อสินทรัพย์ก๊าซธรรชาติในตรินิแดด และโทบาโกของ Cnooc ส่งสัญญาณถึงการหวนกลับเข้าไปทวีปอเมริกาอีกครั้ง หลังจากเคยพลาดเข้าซื้อบริษัทยูโนแคลเมื่อปี 2548

ส่วนการเจรจาข้อตกลงในแองโกล่านั้นแตกต่างจากที่บริษัทน้ำมันจีนเคยประสบความสำเร็จมา ซึ่งเป็นการเข้าซื้อสินทรัพย์ต่างแดนโดยลำพังแต่ละบริษัท แต่ในกรณีนี้เป็นการเข้าซื้อร่วมกัน

ปัจจุบัน ธุรกิจในต่างแดนของ Cnooc ส่วนใหญ่มุ่งเน้นที่ไนจีเรียและอินโดนีเชีย และเข้าไปลงทุนอยู่บ้างในแคนาดา สำหรับปริมาณการผลิตน้ำมันในแต่ละวันของทาลิสมันที่ตรินิแดดและโทบาโกนั้นได้เฉลี่ยวันละ 6,439 บาร์เรลในปีที่แล้ว