เอเยนซี –จีนเผยตัวเลขเด็กที่ป่วยจากนมผงที่เจือปนสารพิษเพิ่มขึ้นเป็น 6,244 คนและมีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย และจากการตรวจสอบพบว่า ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมจีนอย่างอี่ลี่ ,เหมิ่งหนิวและกวงหมิง ต่างมีสารพิษปนเปื้อน ขณะที่ทางการออกมาตรการให้รักษาฟรีพร้อมเตรียมเรียกค่าชดเชยจากผู้รับผิดชอบ
หลังจากที่เกิดเหตุตรวจพบนมผง“ซานลู่” เจือปนสารเมลามีน คร่าชีวิตเด็กทารก และทำให้เด็กทารกอีกจำนวนมากล้มป่วยด้วยอาการนิ่วในไต ในขณะนี้ประเด็นดังกล่าวได้ลุกลามบานปลายเป็นประเด็นความไม่ปลอดภัยในนม จนทำให้บรรดาผู้บริโภคทั้งหลายเริ่มไม่ไว้วางใจในนมของจีน และฉุดให้ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมในประเทศจีนลดลงอย่างฮวบฮาบ
ปัญหาเรื่องการเจือสารเมลามีนในนมผง ได้ทำให้ทางการจีนต้องเร่งรีบตรวจสอบ โดยทางคณะรัฐมนตรีได้แถลงข่าวในตอนเช้าวันพุธ (17 ก.ย.) โดยระบุว่า ทั่วประเทศจีนมีบริษัทที่ทำการผลิตนมผงสำหรับเด็กทั้งสิ้น 175 แห่ง ซึ่งในขณะนี้ได้มีการหยุดการผลิตไปแล้ว 66 ที่ และจากการตรวจสอบผลิตภัณฑ์จำนวน 491 รายการจากอีก 109 บริษัทที่เหลือ ผลปรากฏว่ามีสินค้าจำนวน 69 รายการจาก 22 บริษัทที่มีสารเมลามีนผสมอยู่ในสัดส่วนที่มากน้อยต่างกันออกไป
ซึ่งการการตรวจสอบในครั้งนี้พบว่า นมผงที่ผลิตจากบริษัทซานลู่ ในสือเจียจวงมีปริมาณสารเมลามีนที่สูงมาก โดยในสินค้าที่มีมากที่สุดมีถึง 2,563 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ในขณะที่สินค้าตัวอื่นๆอยู่ที่ 0.09 – 619 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
ในขณะที่สำนักข่าวไชน่านิวส์ได้รายงานในตอนเช้าว่า ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. ถึงเวลา 8.00 น.ของวันที่ 17 ก.ย. แต่ละท้องที่มีเด็กที่ป่วยเข้าโรงพยาบาลแล้วทั้งสิ้น 6,244 ราย แบ่งเป็น 4,917 รายที่มีอาการอย่างเบา ไม่มีความเสี่ยงถึงชีวิตและกำลังรับการรักษาหรือรักษาหายดีแล้ว ส่วนอีก 1,327 รายนั้นยังต้องอยู่รอดูอาการที่โรงพยาบาลต่อไป ซึ่งในประวัติการเข้าตรวจของผู้ป่วยเหล่านี้พบว่ามี 158 คนที่พบอาการไตเสื่อมอย่างเฉียบพลัน หรือคิดเป็น 2.5% ของผู้ป่วย ซึ่งหลังจากการรักษามี 94 คนที่อาการคงตัวหรือออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว และมีผุ้เสียชีวิตทั้งสิ้น 3 รายมาจากมณฑลกันซู่ 2 รายและมณฑลเจ้อเจียง 1 ราย ซึ่งไม่ได้นับอยู่ในผู้ป่วย 6,244 คน
บริษัทนมยักษ์ใหญ่มีเอี่ยว
แม้ว่าบริษัทผลิตนมที่ตรวจพบว่ามีปัญหานั้นจะคิดเป็นเพียงประมาณ 10% ของผู้ผลิตนมทั้งหมด ทว่าบริษัทและสินค้าของบริษัทเหล่านี้กลับกระจายตัวครอบคลุมทั่วตั้งแต่ทางใต้จรดเหนือของจีน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทอีลี่ ,เหมิ่งหนิว,กวงหมิง ซึ่งต่างเป็นบริษัทที่มีสัดส่วนเป็นส่วนใหญ่ในตลาดนมของจีน โดยจากรายงานปี 2006 ได้ระบุว่า ตลาดนมของจีนส่วนใหญ่ถูกแบ่งเค้กโดยอีลี่ เหมิ่งหนิว และกวงหมิง
Peder Tuborgh ซีอีโอของอาร์ลา กรุ๊ป ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อประเทศเดนมาร์กว่า บริษัทเหมิ่งหนิวซึ่งทางอาร์ลากรุ๊ปได้ร่วมถือหุ้นนั้นได้ทำการตรวจสอบสินค้าทั้งสิ้น 28 รายการ มีซึ่งมี 3 รายการที่มีส่วนผสมของเมลามีน และจากปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น ได้ทำการแขวนหุ้นของตนที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในเวลา 9.31 น. ของวันที่ 17 ก.ย.
“เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นภัยร้ายแรงครั้งหนึ่ง สำหรับผู้บริโภคนั้น นี่นับว่าเป็นภัยที่ไม่ได้คาดฝันครั้งหนึ่งทีเดียว” Peder ระบุ
มาตรการรับมือ
จากการแถลงข่าว ทางคณะรัฐมนตรีได้ระบุว่า สำหรับรายการสินค้าที่ตรวจพบว่ามีปัญหานั้น จะต้องปิดผนึกทันที และไม่อนุญาตให้ส่งออกจำหน่าย และหากสินค้าดังกล่าวได้ออกจำหน่ายสู่ตลาดแล้วก็ให้เอาลงจากชั้นวางสินค้าและเก็บคืนทันที และหลังจากที่สามารถควบคุมไม่ให้นมผงเหล่านี้ออกสู่ตลาดแล้ว ก็จะทำการสืบหาต้นตอสาเหตุ ผู้ที่รับผิดชอบ และลงโทษอย่างหนัก
หนังสือพิมพ์หมิงเป้าของฮ่องกงได้รายงานว่า จนถึงขณะนี้ทางการมณฑลเหอเป่ยได้เปิดเผยว่ามีการจับกุมคนแล้วทั้งสิ้น 26 คน และมีการขังคุกไปแล้ว 22 คน
ด้านการช่วยเหลือผู้ป่วยที่เดือดร้อนจากปัญหานมปลอมและปัญหานมมีสารเจือปนนั้นทางกระทรวงสาธารณสุขได้จัดการอบรมเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่พยาบาลในท้องที่ต่างๆ และมีมาตรการที่จะให้ทำการรักษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยเบื้องต้นให้สถานพยาบาลต่างๆสำรองค่าใช้จ่ายไปก่อน และหากสถานพยาบาลใดมีปัญหาเรื่องการสำรองค่าใช้จ่ายก็ให้หน่วยงานปกครองในท้องถิ่นนั้นสำรองจ่ายไปก่อน และหลังจากที่มีการตรวจสอบยืนยันแล้ว จะให้ผู้ที่ต้องรับผิดชอบเป็นผู้ชำระพร้อมค่าชดเชยตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ สารพิษประเภท “ไตรโพลีไซอานาไมด์” หรือ “เมลามีน” เป็นสารที่ใช้ในการผลิตพลาสติก ซึ่งหากรับประทานเข้าไปสารพิษตัวนี้อาจสามารถทำให้เป็นนิ่วในไตได้