xs
xsm
sm
md
lg

ไต้หวันเล็งให้วีซ่าเข้าออกหลายครั้งนักท่องเที่ยวจีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หม่า อิงจิ่ว ประธานาธิบดีไต้หวันคนล่าสุด
เอเจนซี – ไต้หวันอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวแผ่นดินใหญ่ เตรียมอนุมัติให้ผู้เดินทางสามารถขอรับการตรวจลงตรา ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือขอวีซ่าประเภทเข้าออกหลายครั้งได้

หม่า อิงจิ่ว ผู้นำไต้หวันประกาศเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ เกาะจินเหมิน (คีมอย) ระบุในอนาคตเตรียมอำนวยความสะดวกแก่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่จะเข้ามาท่องเที่ยวที่เกาะจินเหมิน และเกาะหมาจู่ (มัตสึ) ด้วยการอนุญาตให้ผู้เดินทางสามารถขอรับการตรวจลงตรา ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (VISA ON ARRIVAL) หรือ วีซ่าประเภทเข้าออกได้หลายครั้งได้ (MULTIPLE VISA)

ในกรณีที่นักท่องเที่ยวจีนแผ่นดินใหญ่ที่เดินทางมายังเกาะทั้งสองมีปริมาณมากเกินไป ทางไต้หวันก็จะปรึกษาหารือกับแผ่นดินใหญ่ตั้งสำนักงานความร่วมมือระหว่างจินเหมิน (ไต้หวัน) และเซี่ยเหมิน (แผ่นดินใหญ่) เพื่อแก้ปัญหาการออกวีซ่า

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เหลียนเหอ หลิว เต๋อซวิน รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการแผ่นดินใหญ่ประจำไต้หวันให้สัมภาษณ์ว่า เดิมทีอำเภอจินเหมินต้องการยกเว้นวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวแผ่นดินใหญ่ แต่หม่า อิงจิ่วกล่าวว่า ไต้หวันและแผ่นดินใหญ่มีกฎเกณฑ์เรื่องความสัมพันธ์ซึ่งระบุไว้ว่า ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่จะเข้าไต้หวันจะต้องขออนุญาต ดังนั้นจึงไม่สามารถยกเว้นวีซ่าได้ การผ่อนปรนให้สามารถมาขอรับการตรวจลงตรา ณ ด่าตรวจคนเข้าเมือง หรือวีซ่าเข้าออกได้หลายครั้งน่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด

ขณะเดียวกันสำนักข่าวเซนทรัล นิวส์ ยังรายงานเมื่อวันอาทิตย์ (24 ส.ค.) ว่า ทางไต้หวันกำลังพิจารณาสร้างสะพานเชื่อมโยงเกาะจินเหมิน กับเมืองเซี่ยเหมิน ในมณฑลฝูเจี้ยน (ฮกเกี้ยน) ของจีน อันเป็นความพยายามหนึ่งในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองดินแดนช่องแคบไต้หวัน โดยสำนักข่าวอ้างคำพูด หม่า อิงจิ่ว ว่าทางรัฐบาลจะหาข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ว่าโครงการนี้จะเป็นไปได้หรือไม่

ทั้งนี้ หลังจากหม่า อิงจิ่ว ตัวแทนจากพรรคก๊กมินตั๋งเอาชนะการเลือกตั้ง ได้เป็นผู้นำไต้หวันคนล่าสุด ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไต้หวันมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น โดยมีการผ่อนปรนกฎข้อบังคับว่าด้วยการเข้าลงทุนในตลาดฮ่องกงและจีนของบริษัทท้องถิ่น รวมไปถึงการประเดิมเที่ยวบินบินตรงเหมาลำระหว่างแผ่นดินใหญ่และไต้หวัน และประกาศรับแพนด้าคู่ “ถวนถวน-หยวนหยวน” ซึ่งมีความหมายว่า “การอยู่ร่วมกัน” จากรัฐบาลจีนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น