เชียร์ลีดเดอร์สาวขอ"เซ็กซี่"เพื่อโอลิมปิก

เต้น เต้น แล้วก็เต้น ชีวิตตอนนี้ของเจียงเล่อ หัวหน้าทีมเชียร์ลีดเดอร์ชื่อ “X-Team” มีแต่คำว่า "เต้น" เท่านั้น เพราะทีมของพวกเธอได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการโอลิมปิกปักกิ่งให้เข้าไปโชว์ลีลายักย้ายส่ายสะโพกในสนามแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด ที่สวนสาธารณะเฉาหยาง

เดิมทีเจียงเล่อจบการศึกษาจากวิทยาลัยพลศึกษาเมืองปักกิ่ง และเป็นอาจารย์สอนวิชาพลศึกษาที่มหาวิทยาลัยแคปิตอล นอร์มอลของปักกิ่ง ในยามว่างจากการสอนนั้น เจียงเล่อก็จะไปร่วมซ้อมเชียร์ลีดเดอร์กับทีมเก่าแก่อย่าง CBA เต้นกับทีมนี้อยู่ 2 ปี ในที่สุดเจียงเล่อเริ่มรู้สึกอยากตั้งทีมเชียร์ลีดเดอร์ของตัวเองเสียแล้ว

กระทั่งเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว เพื่อนของเธอได้แนะนำหญิงสาว 6 คนมาให้ นอกจากนั้นเจียงยังได้ประกาศรับสมัครลูกทีมเพิ่มอีกผ่านเว็บบล็อกของเธอเอง ในเวลาไม่ถึง 2 เดือนทีมเชียร์ลีดเดอร์ภายใต้การนำของเจียงเล่อ ก็มีสมาชิกกว่า 30 คน ในจำนวนนี้ก็มีทั้งที่เป็น นักศึกษามหาวิทยาลัย พนักงานบริษัท อาจารย์ และแอร์โฮสเตสด้วย อายุก็มีตั้งแต่ 17 ปียัน 29 ปีเลยทีเดียว

X-Team ใช้เวลาซ้อมสัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง หลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือนเจียงเล่อก็ส่งทีมเข้าแข่งขันเชียร์ลีดเดอร์ นับว่า X-Team ก็มีชื่อเสียงอยู่บ้างในวงการเชียร์ลีดเดอร์เมืองจีน

แต่แล้ว X-Team ก็เดินมาถึงจุดเปลี่ยนก็ว่าได้ เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2007 คณะกรรมการโอลิมปิกปักกิ่ง (BOCOG) ประกาศรับสมัครเชียร์ลีดเดอร์สำหรับเชียร์กีฬาโอลิมปิก ซึ่งเจียงเล่อก็ไม่ปล่อยโอกาสให้ผ่านพ้น เธอพาลูกทีมไปลงทะเบียนสมัคร และในเดือนต่อมาผลปรากฎว่า สมาชิก 8 คนของ X-Team ได้รับเลือกจาก BOCOG กลายเป็นทีมเชียร์ลีดเดอร์อาสาสมัครของโอลิมปิก 2008

หลังจากได้รับเลือกแล้ว การฝึกซ้อมเชียร์ลีดเดอร์โอลิมปิกถือเป็นความลับยิ่ง ยามปกติพวกเธอก็จะเก็บตัวอยู่ที่สถานฝึกซ้อมแถบเยี่ยนเจียวในกรุงปักกิ่ง ไม่สามารถออกไปไหนตามใจชอบได้ แม้แต่หลิวเหวิน สามีของเจียงเล่อก็ลาออกจากงานมาคุมทีมเชียร์ลีดเดอร์ให้ด้วย

นอกจากต้องเก็บเป็นความลับแล้ว เจียงเล่อยังตีกรอบสำหรับตัวเองและลูกทีมไว้อย่างเคร่งครัด อย่างเช่น ห้ามใช้เพลงเกาหลี หรือเพลงภาษาอังกฤษที่มีคำหยาบคายเป็นเพลงประกอบการเต้น อีกทั้งสาวๆ เชียร์ลีดเดอร์ยังห้ามใส่เครื่องประดับใดๆ ด้วย เพื่อใม่ให้เกิดปัญหาเรื่องทำเครื่องประดับหล่นหายในสนาม และส่งผลกระทบต่อการแข่งขัน

ไม่เพียงเท่านั้น หลังจากฝึกซ้อมแล้ว ตอนเย็นทุกคนยังต้องร่วมอบรมเกี่ยวกับวัฒนธรรมต่างๆ เรียนรู้เกี่ยวกับโอลิมปิกและสนามแข่งขันด้วย ตอนนี้ทีม X-Team ปักหลักเชียร์อยู่ที่สนามกีฬาวอลเล่ย์บอลชายหาด และจะอยู่ที่นี่จนกระทั่งจบการแข่งขันโอลิมปิกเลยทีเดียว

ฝ่าด่านอรหันต์เปลื้องผ้าเซ็กซี่-อาบแดดผิวแทน

สังเกตุตอนที่พูดคุย คอของเจียงเล่อดูไม่เป็นธรรมชาติ เธอเล่าว่าช่วงที่เก็บตัวซ้อม 1 เดือนที่เยี่ยนเจียว เธอสะบัดคอแรงเกินไปจนทำให้คอได้รับบาดเจ็บ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถแหงนหน้าได้

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เจียงเล่อกังวลไม่ใช่อาการบาดเจ็บของตัวเอง แต่เป็นความเซ็กซี่ของทีม ว่าพวกเธอจะสามารถเต้นได้เผ็ดร้อน และเซ็กซี่พอหรือไม่

ปกติเชียร์ลีดเดอร์ของแต่ละสนามล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง สำหรับเจียงเล่อแล้วการที่ได้รับเลือกให้มาเป็นเชียร์ลีดเดอร์ในสนามแข่งกีฬาวอลเล่ย์บอลชายหาดทำให้เธอรู้สึกดีใจและรู้สึกเป็นกังวลในคราเดียวกัน ที่ดีใจคือที่นี่มีการแข่งขันหลายนัด พวกเธอมีโอกาสให้แสดงเยอะ แต่ที่กังวลก็คือ เชียร์ลีดเดอร์ของสนามแข่งวอลเล่ย์บอลชายหาดโดดเด่นที่ความเซ็กซี่ และคณะกรรมการโอลิมปิกปักกิ่งก็ต้องการให้พวกเธอแต่งกายด้วยชุดบิกีนี่ ในขณะที่เอกลักษณ์ที่ผ่านมาของทีม X-Team ก็คือเต็มไปด้วยกลิ่นอายความเป็นจีน ความสดใสน่ารัก และท่าเต้นที่แข็งแรง ดูมีพลัง สมาชิกทุกคนต่างมีงานประจำของตัวเองและไม่เคยชินกับการแต่งตัวเปิดเผยเนื้อหนัง พวกเธอจะสามารถข้ามผ่านลุคส์เดิม เปลี่ยนเป็นสาวเซ็กซี่ได้หรือไม่

ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว X-Team ยังแต่งตัวแบบ "ตุ๊กตาจีน" ออกไปเต้นเชียร์ในการแข่งขันแบดมินตันรายการหนึ่งอยู่เลย สมาชิกทุกคนถักเปีย ใส่กางเกงยาวสีแดง ตรงข้ามกับเชียร์ลีดเดอร์ทีมอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่ใส่มินิสเกิ้ต แถม X-Team ยังเลือกเต้นเพลงบรรเลงกลิ่นอายจีนสุดๆ ของ Twelve Girl Band ด้วย แต่ด้วยเอกลักษณ์โดดเด่นของทีมนี้เอง ทำให้ X-Team ได้รับเลือกให้เข้าสู่สนามกีฬาโอลิมปิกนั่นเอง

ที่ผ่านมาเจียงเล่อยังคงเดินตามจุดยืนเดิมของทีม จนกระทั่งเดือนเมษายนปี 2008 ที่ผ่านมา เจียงเล่อเริ่มรู้สึกว่า X-Team ต้องเปลี่ยนแนวทางเสียแล้ว ตอนแรกที่เริ่มซ้อมทุกคนล้วนแต่งกายตามสบาย ซึ่งเจียงเล่อเล่าว่า "ฉันมองแล้วรู้สึกว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ไหวแน่ ถ้าตอนนี้ทุกคนยังใส่ชุดมิดชิดซ้อมแบบนี้ พอถึงเวลาขึ้นสนามจริง ให้ใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นทุกคนคงรู้สึกไม่คุ้นชิน และนั่นจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการแสดงแน่นอน" ดังนั้นตอนที่ซ้อมเจียงเล่อจึงเริ่มให้ทุกคนใส่ชุดบิกีนี่ซ้อม กระทั่งถึงตอนนี้การใส่ชุดบิกีนี่เต้นไม่ใช่อุปสรรคของพวกเธออีกแล้ว

นอกจากเปลี่ยนลุคให้ดูเซ็กซี่ขึ้นแล้ว เจียงเล่อยังต้องพาลูกทีมอีก 7 คนไปนอนอาบแดด "ตอนนี้ในด้านเทคนิกคิดว่าเราไม่มีปัญหาแล้ว เหลือแต่เรื่องสีผิวนี่แหละที่ยังดำไม่พอ ต้องอาบแดดให้ผิวเป็นสีแทน" เจียงเล่อเล่า การอาบแดดให้สีออกแทนๆ นั้น เป็นสิ่งที่คณะกรรมการโอลิมปิกปักกิ่งเรียกร้องจากสาวๆ เชียร์ลีดเดอร์วอลเล่ย์บอลชายหาด ดังนั้นการอาบแดดจึงเป็นอีกคอร์สหนึ่งที่สาวๆ จะต้องปฏิบัติ เพราะเชียร์ลีดเดอร์ที่มีผิวสีแทนแลดูมีสุขภาพดี และดูมีเสน่ห์มากเมื่อเต้นเชียร์ในสนามแข่งกีฬาวอลเล่ย์บอลชายหาด แต่ถ้าเชียร์ลีดเดอร์ตัวขาว หน้าขาว ก็จะถูกมองว่าไม่เป็นมืออาชีพ

ทุกวันถ้าแดดออก ทีมเชียร์ลีดเดอร์ของเจียงเล่อจะต้องออกไปอาบแดดตั้งแต่เที่ยงวันยันบ่าย 3 โมง โดยทั้งหมดจะสวมเสื้อตัวสั้น กางเกงขาสั้น หรือไม่ก็ชุดบิกีนี่

ส่วนหลังจากจบโอลิมปิกแล้วพวกเธอจะทำอะไรต่อไป เจียงเล่อตอบว่า "ฉันก็จะเชียร์ต่อไป" เจียงเล่อหวังว่าหลังจบโอลิมปิกแล้วยังสามารถเดินบนเส้นทางเชียร์ลีดเดอร์สไตล์จีน ผสมผสานความสดใสน่ารักแบบเดิมได้อีก

นอกจากนี้เธอยังตั้งปณิธานไว้ว่า เธอจะไม่รับงานเชิงพาณิชย์อีก เพราะเธอไม่ต้องการทำลายภาพลักษณ์ที่ดีของ X-Team “ฉันจะนำพา X-Team ให้เป็นทีมเชียร์ลีดเดอร์ที่มีกลิ่นอายความเป็นจีนที่สุด" เจียงเล่อกล่าวทิ้งท้าย