xs
xsm
sm
md
lg

‘หู’ ออกโรงให้สัมภาษณ์สื่อ ดับกระแสวิจารณ์โอลิมปิกจีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หูยิ้มระหว่างการให้สัมภาษณ์ - เอเยนซี
เอเยนซี – เมื่อวันศุกร์ (1 ส.ค.) ประธานาธิบดี หู จิ่นเทา ออกโรงให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติเป็นครั้งแรก ก่อนที่การแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกปักกิ่งจะเปิดฉากขึ้น นักวิเคราะห์ตื่นเต้น ระบุเป็นสัญญาณที่ดีชี้ถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในจีน เหตุประธานาธิบดีหูมาแปลก เปิดแถลงข่าวต่อสื่อต่างชาติ ทั้งที่ปกติมักเลี่ยง

การปรากฏตัวแถลงข่าวกับองค์กรสื่อต่างชาติรวม 25 แห่งของประธานาธิบดี หู จิ่นเทา กลายเป็นประเด็นที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เนื่องด้วยสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการจีนต้องผจญกับกระแสการวิจารณ์ที่หนักหน่วง ทั้งประเด็นเสรีภาพสื่อ และสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทางการจีนนำโดยหลิว เจี้ยนเชา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกโรง โต้ร่างมติของสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกา ที่เรียกร้องให้จีนยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพื่อให้เกียรติต่อ "ธรรมเนียมแห่งเสรีภาพและการเปิดกว้างของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก" โดยหลิวจีนได้กล่าวว่า “จีนขอคัดค้านการทำให้กีฬาโอลิมปิกเป็นการเมือง และคัดค้านกิจกรรมใด ๆ ก็ตามที่แทรกแซงกิจการภายในของจีน”

หลังจากนั้นทางการจีนก็ต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์ครั้งใหญ่ เมื่อสื่อต่างชาติจำนวนมากพร้อมใจกันตีข่าวการเซ็นเซอร์อินเตอร์เน็ตของทางการจีน โดยระบุว่า แม้แต่นักข่าวที่ทำงานในศูนย์ผู้สื่อข่าวหลักสำหรับกีฬาโอลิมปิก ก็ประสบปัญหาไม่สามารถเข้าเวบไซต์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสิทธิมนุษยชน องค์การนิรโทษกรรมสากล และองค์กรที่มีความเห็นไม่ลงรอยกับรัฐบาลจีน โดยสมาคมผู้สื่อข่าวออสเตรเลียได้วิจารณ์รัฐบาลจีนอย่างรุนแรง เปรียบการควบคุมเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของผู้สื่อข่าวว่า เป็นวิธีการเดียวกันกับที่ผู้นำนาซีเคยใช้ในเบอร์ลินเกมส์ เมื่อปี 1936 ซึ่งครั้งนั้นโอลิมปิกถูกนำมาเป็นเครื่องมือในโฆษณาชวนเชื่อนำเสนอความรักสันติภาพของชาวเยอรมัน

พลันที่กระแสวิจารณ์ดังกล่าวกลายเป็นประเด็นร้อน ทางการจีนเริ่มเดินเกมส์ผ่อนคลายการควบคุมอย่างเข้มงวดในเช้าวันศุกร์ หลังจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ได้เจรจากดดันคณะกรรมการโอลิมปิกปักกิ่ง เพราะอึดอัดใจต่อการตัดสินใจของจีน เนื่องจากนายฌากส์ โรกก์ ประธานไอโอซี ได้รับปากไว้เมื่อเดือนก่อนว่า จะให้อิสระกับผู้สื่อข่าวต่างชาติในการใช้อินเตอร์เน็ต
ประธานาธิบดี หู จิ่นเทา ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ (1 ส.ค.) ณ มหาศาลาประชาคม - เอเยนซี
หลังจากที่จีนเปิดไฟเขียวให้ผู้สื่อข่าวเข้าถึงเวบไซต์อย่างจำกัดในวันศุกร์ ประธานาธิบดี หู จิ่นเทาก็ปรากฏกายให้สัมภาษณ์กับสื่อในวันเดียวกันนั้น เพื่อแสดงเป็นนัยว่า “จีนให้สิทธิเสรีภาพสื่อและเปิดกว้างมากขึ้น” ทว่าการปรากฏตัวดังกล่าวก็มิวายถูกวิจารณ์ว่า “เป็นการปรากฏตัวให้สัมภาษณ์อย่างจำกัด” โดยนิวยอร์ค ไทมส์ระบุว่า การให้สัมภาษณ์นี้มีการวางแผน เชิญสื่อที่ได้รับการคัดเลือกรวม 25 ราย โดยสื่อแต่ละแห่งต้องส่งคำถามที่จะสัมภาษณ์ให้กับทางรัฐล่วงหน้า และการจัดแถลงข่าวให้สัมภาษณ์ของประธานาธิบดีหูครั้งนี้ ก็ถูกเก็บเป็นความลับ นิวยอร์ค ไทมส์ไม่ทราบข่าวมาก่อน กระทั่งวันพฤหัสบดีเมื่อมีข่าวลือแพร่กระจายออกมา ทางสำนักข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อกระทรวงการต่างประเทศ ทว่าเจ้าหน้าที่กลับปฏิเสธอย่างสุภาพ โดยบอกว่าโควตาเต็มแล้ว และจะไม่มีการขยายเพิ่ม เนื่องจากไม่มีเวลาเพียงพอสำหรับคำถาม

อย่างไรก็ตามแม้การแถลงข่าวครั้งนี้จะเป็นการแถลงข่าวอย่างจำกัด แต่ก็เป็นเรื่องที่แปลกมาก เนื่องจากปกติประธานาธิบดีหูมักเก็บตัวเลี่ยงการให้สัมภาษณ์สื่อ โดยเฉพาะกับสื่อต่างชาตินั้น หูมักไม่ค่อยให้โอกาสสัมภาษณ์เท่าไรนัก เมื่อเดินทางเยือนต่างประเทศ และจำเป็นต้องให้สัมภาษณ์ หูก็มักเลี่ยงหรือให้สัมภาษณ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

หลายฝ่ายวิจารณ์ว่า เหตุที่ประธานาธิบดีจีนออกโรงด้วยตนเอง เป็นเพราะโอลิมปิกเป็นช่วงเวลาที่จีนจะเปิดตัวสู่สากล และจีนเองก็ต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เป็นที่รับรู้ ดังนั้นการเชิญสื่อต่างชาติไปครั้งนี้จึงเป็นแผนของทางการจีน ที่ต้องการให้สื่อต่างชาติรายงานข่าวเกี่ยวกับจีนในแง่บวก

หลังการแถลงข่าวในภาคเช้า สำนักข่าวซินหัวภาคภาษาอังกฤษได้รายงานข่าวการแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ของหูบนหน้าเวบไซต์ พร้อมเผยแพร่รูปประธานาธิบดีจับมือกับสื่อต่างชาติ ทั้งนี้สื่อหลายแห่งได้ลงรายละเอียดการแถลงข่าวครั้งนี้ว่า ที่จริงแล้วก็เป็นการให้ข่าวอย่างจำกัด ประธานาธิบดีเพียงกล่าวถึงประเด็นโอลิมปิกและเศรษฐกิจ เรียกร้องมิให้ดึงโอลิมปิกไปเกี่ยวข้องกับการเมือง และย้ำว่าจะยังคงรักษาระดับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วไว้ต่อไป แม้ว่าสถานการณ์ภายในประเทศและต่างประเทศจะมีอุปสรรคต่างๆนานา

ทั้งนี้ประธานาธิบดีจีนได้กล่าวติดตลกว่า “ข้าพเจ้ามีความฝัน อยากร่วมแข่งขันในโอลิมปิกครั้งนี้ ในฐานะนักกีฬาปิงปองทีมชาติ แต่เสียดายที่ตอนนี้การคัดตัวนักกีฬาเสร็จสิ้นแล้ว ทำให้เสียโอกาส”

การเมืองของการแถลงข่าว

หยาง ต้าหลี่ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชิคาโก วิจารณ์ความเคลื่อนไหวของทางการจีนครั้งนี้ว่า “จีนเริ่มเรียนรู้ มีประสบการณ์เกี่ยวกับสื่อมากขึ้น ดังนั้นการเผชิญหน้ากับสื่อโดยตรงจึงไม่เป็นผลดีกับจีน โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ทั่วโลกจับตามอง การปรากฎตัวแถลงข่าวของหู เป็นการเดินเกมส์ที่ชาญฉลาด เพราะการเคลื่อนไหวอย่างชาญฉลาดไม่กี่ครั้งในช่วงนี้ จะทำให้จีนสามารถชนะใจนานาชาติได้”
ถ่ายรูปหมู่กับบรรดาสื่อต่างชาติ - รอยเตอร์
ทั้งนี้การให้สัมภาษณ์ของหู และการเปิดเสรีการเข้าถึงเวบไซต์อย่างจำกัด กลายเป็นข่าวครึกโครม ที่กลบกระแสวิพากษ์วิจารณ์จีน และคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ซึ่งถูกตำหนิอย่างมากในเรื่องสิทธิเสรีภาพสื่อและสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะไอโอซีนั้นถูกวิจารณ์ว่านิ่งเฉยต่อการกระทำของจีน ทั้งที่ช่วงนี้ข่าวคราวเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของจีนถูกขุดคุ้ยเผยแพร่ออกมาเป็นจำนวนมาก ตัวแทนของฝ่ายทิเบตเสรีรายหนึ่งได้กล่าววิจารณ์ว่า “ถ้าจะวิจารณ์ว่าใครทำให้โอลิมปิกเป็นเรื่องการเมือง คำตอบที่ได้คงไม่พ้นจีนกับไอโอซี พวกเขาควรรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ ไอโอซีไม่เคยทำตามที่สัญญาไว้ การบริหารของฌากส์ โรกก์ทำให้โอลิมปิกแปดเปื้อน”

หลังเกิดศึกขัดแย้งเซ็นเซอร์การเข้าสู่ข้อมูลบนเว็บไซต์ของนักข่าวในจีน นายฌากส์ โรกก์ ประธานไอโอซี ก็ได้ออกโรงแถลงในวันเสาร์(2 ส.ค.) ยืนยันว่าเขาไม่ได้ตกลงหรือสัญญาใดๆกับทางการปักกิ่ง เกี่ยวกับเรื่องนี้  “ไม่มีข้อตกลงยอมรับข้อจำกัดการเข้าสู่ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต”

นายใหญ่แห่งไอโอซีบอกว่าการที่นักข่าวต่างชาติไม่สามารถเปิดดูข้อมูลบนเว็บไซต์หลายแห่งได้ในวันอังคาร(29 ก.ค.) เป็นเพราะว่าเงื่อนไขการทำงานในวันนั้นไม่ดีต่างหาก “และผมไม่อาจขอโทษสำหรับสิ่งที่ไม่ใช่ความรับผิดชอบของไอโอซี เราไม่ได้ปฏิบัติการอินเทอร์เน็ตในจีน”

สำหรับความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสื่อต่างชาตินั้น ในปีนี้ทางการจีนค่อนข้างประนีประนอมกับสื่อมาก เมื่อเกิดการจลาจลในทิเบต และเหตุแผ่นดินไหวในซื่อชวน (เสฉวน) ทางการก็ยอมให้สื่อต่างชาติเข้าไปทำข่าวได้ในระดับหนึ่ง หากการรายงานข่าวนั้นไม่ล้ำเส้นวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีนเกินไป อาทิ ในกรณีทิเบต หลังการจลาจลสงบลงพักหนึ่งทางการได้เชิญสื่อต่างชาติเข้าไปทำข่าวด้วยตนเอง

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่จีนตามหน่วยงานต่างๆ ซึ่งปกติมักเก็บตัวเงียบ และมีท่าทีเฉยชาต่อสื่อก็เปลี่ยนแปลงไป พวกเขาให้สัมภาษณ์สื่อมากขึ้น แต่ก็เป็นการสัมภาษณ์ที่ยังจำกัด สำนักข่าวต่างชาติแห่งหนึ่งได้ตั้งข้อสังเกตต่อท่าทีทีเปลี่ยนแปลงไปของทางการจีนว่า “การเปิดตัวสู่สายตาชาวโลกผ่านโอลิมปิก ทำให้จีนมีท่าทีประนีประนอมกับสื่อมากขึ้น และท่าทีดังกล่าวก็ส่งผลต่อการให้ข่าว กล่าวคือเป็นการให้ข่าวอย่างประนีประนอม ที่ยังมีการจำกัดข้อมูลอยู่ระดับหนึ่ง”

การเปลี่ยนแปลงท่าทีของจีนครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่าทางการจีนพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้โอลิมปิกครั้งนี้ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งความหวังไว้ ไม่เว้นแม้แต่การผ่อนคลายท่าทีเกี่ยวกับสื่อ ซึ่งเป็นประเด็นอ่อนไหวของทางการจีน เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับความมั่นคง ทั้งนี้ในการแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ประธานาธิบดีหูได้กล่าวถึง การลงทุนก่อสร้างสนามกีฬา และสิ่งก่อสร้างอื่นๆในปักกิ่งเพื่อรองรับโอลิมปิกรวมเป็นมูลค่ามากกว่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯว่า “คุ้มค่าแล้ว ชาวจีนฝันที่จะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกตั้งแต่ปี 1908 พิธีเปิดมหกรรมกีฬาในวันที่ 8 สิงหาคมนี้จะทำให้ความฝัน 100 ปีเป็นจริง”
กำลังโหลดความคิดเห็น