ไชน่านิวส์ – ผู้ประกอบการบริษัทโฆษณารายย่อยในเซี่ยงไฮ้ต่างโอดครวญสูญเสียรายได้ ลูกค้าหลายรายไม่ยอมจ่ายเงินล่วงหน้า จนอาจเผชิญหน้ากับการปิดกิจการหลังทางการเซี่ยงไฮ้ออกคำสั่งไม่อนุมัติป้ายโฆษณากลางแจ้งอีก
ในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา สำนักงานควบคุมอนามัยและสิ่งแวดล้อมของเซี่ยงไฮ้ได้ออกประกาศฉุกเฉิน สั่งให้หยุดการพิจารณาอนุมัติการติดป้ายโฆษณากลางแจ้งทั้งหมด หลังจากนั้นไม่กี่วัน สำนักงานวางแผนและจัดการเมืองเซี่ยงไฮ้ก็ได้ออกกฎในทำนองเดียวกันออกมา โดยกำหนดให้บริษัทใดที่ได้เซ็นสัญญาระยะยาวกันไว้ ให้มีผลสิ้นสุดภายในปีนี้
ทางการเซี่ยงไฮ้ได้ให้เหตุผลต่อการประกาศดังกล่าวว่า เนื่องจากในเซี่ยงไฮ้นั้นมีป้ายโฆษณากลางแจ้งมากเกินไป ถี่เกินไป จึงจำเป็นต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อเป็นการปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในเซี่ยงไฮ้เพื่อเตรียมรับงานเวิลด์ เอ็กซ์โปที่จะมาถึงในปี 2010
อู๋ เหริน เจ้าของบริษัทโฆษณาเหรินเจี๋ยได้เปิดเผยว่า “ตอนนี้ในมือมีสัญญาอยู่ 3-4 ฉบับ ที่ลูกค้าไม่ยอมจ่ายเงินล่วงหน้าแล้ว สัญญา 3-4 ฉบับนี้ เป็นเงิน3-4 ล้านหยวน ประกาศที่ออกมาเป็นรับรู้กันไปทั่ว ลูกค้าจึงรอให้ได้ขึ้นป้ายก่อนค่อยจ่ายเงิน เพราะหากจ่ายเงินล่วงหน้า แล้วสุดท้ายสัญญาเป็นโมฆะ ทุกอย่างก็เสียเปล่า”
ผู้ประกอบการขนาดเล็กนั้นในแต่ละปีมีสัญญาราว 20 กว่าฉบับ เสียสัญญาไป 4 ฉบับก็เท่ากับ 1 ใน 5 ของลูกค้าทั้งปี ซึ่งอันที่จริงผู้ประกอบการอาจใช้เหตุผลที่ว่าเป็นคำสั่งของทางการและไม่คืนเงินมัดจำให้ แต่เช่นนี้ในอนาคตก็คงจะเสียลูกค้าไป
คำสั่งดังกล่าวถูกผู้ที่อยู่ในวงการมองว่า อาจไม่ใช่คำสั่งระยะสั้นที่ดำเนินไปถึงแค่ช่วงงานเเซี่ยงไฮ้ เวิลด์ เอ็กซ์โปเท่านั้น ในขณะที่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบระบุว่า “การที่ทางการต้องการจะจัดระเบียบควบคุม แม้จะเป็นเจตนาดีแต่ก็ไม่ควรที่จะกระทำผิดต่อกฎเกณฑ์ตลาด และยิ่งไม่ควรออกคำสั่งที่ตัดขาดทุกอย่างเช่นนี้”
ทั้งนี้ บริษัทที่ประกอบการด้านโฆษณาเช่นนี้ในเซี่ยงไฮ้มีถึง 4,000 ราย ในแต่ละปีมีมูลค่าธุรกิจสูงถึง 6,000 ล้านหยวน และเกี่ยวข้องกับแรงงานทั้งสิ้น 100,000 กว่าคน คนในวงการมองว่า “บริษัทขนาดเล็กไม่น้อยที่ได้กู้เงินมาดำเนินธุรกิจ เมื่อพบเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ อาจจะประสบกับความเสี่ยงที่ถึงขั้นทำให้ต้องปิดกิจการได้”