หนังสือพิมพ์สากล--นิตยสารไทมส์ แห่งสหรัฐอเมริกา จัดอันดับ 100 บุคคล ที่ทรงอิทธิพลบนเวทีโลกในรอบปี โดยมีผู้นำไต้หวันติดโผด้วย คือนายหม่า อิงจิ่ว ที่กำลังขึ้นนั่งบัลลังก์ผู้นำสูงสุดแห่งเกาะไต้หวันอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้
นายหม่ายังได้ขึ้นปกนิตยสารยักษ์ใหญ่แห่งแดนอินทรีฉบับนี้ ร่วมกับทะไล ลามะผู้นำจิตวิญญาณและผู้นำรัฐบาลพลัดถิ่นแห่งทิเบต นางฮิลลารี่ คลินตันผู้รับการเลือกตั้งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ เป็นต้น
มิเชล ชูมาน (Michael Schuman) ผู้เขียนและจัดอันดับ 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลของโลกในปีนี้ ชี้ว่าหม่าวัย 57 ปี ผู้นำที่ลุ่มลึกมีเสน่ห์ เป็นนักการเมืองคนหนึ่ง ที่หาพบได้ยาก เป็นความหวังใหม่ของไต้หวัน ทั้งอาจเป็นผู้พลิกชะตาของภูมิภาค ที่มักถูกคุคามด้วยความขัดแย้งระหว่างช่องแคบ
หลังจากที่นายหม่าคว้าชัยชนะถล่มทลายในการเลือกตั้งประธานาธิบดี หลายคนก็มองเห็นหนทางคลี่คลายศึกเผชิญหน้า ที่ดำเนินมานาน 60 ปี ระหว่างสองจีนคือไต้หวันและแผ่นดินใหญ่ ลบร่องรอยสุดท้ายของสงครามเย็นในภูมิภาคเอเชีย
ชูมาน ชี้ว่า อย่างไรก็ตาม หม่าผู้ปราดเปรื่อง จบการศึกษาจากฮาร์วาร์ด ก็ยังต้องเผชิญหน้าความท้าทายที่โหดหิน แม้ผู้นำในปักกิ่งแสดงท่าทียินดีจับมือกับหม่า แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินหรือมองผู้นำจีนได้ทะลุว่า จะไปไกลแค่ไหน หากเผชิญกับประเด็นที่มีความอ่อนไหวสูง
นอกจากนี้ ฝ่ายชาวไต้หวัน ก็ยังกลัวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ยังกลัวว่าถ้าสองฝ่าย เข้าใกล้กันมากเกินไป แผ่นดินใหญ่ก็จะกลืนไต้หวัน ต่อเรื่องนี้ ท่าทีของหม่าจะเป็นจุดเปลี่ยนอันหนึ่ง และสิ่งที่พอจะสันนิษฐานก็คือ การก้าวย่างไปบนเส้นทางที่จะนำไปสู่สถานการณ์แบบ “วิน-วิน” ชัยด้วยกันทั้งคู่
สำหรับคนจีนท่านอื่นๆที่ได้ขึ้นแท่น 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลในครั้งนี้ ได้แก่ ประธานาธิบดี หู จิ่นเทา และผู้อำนวยการบรรษัทเพื่อการลงทุนโหล่ว จี้เหว่ย.