เหมยเยี่ยนฟาง หรือ Anita Mui นักแสดงและนักร้องคุณภาพจากวงการบันเทิงฮ่องกง ผู้ได้รับฉายา “มาดอนน่าแห่งเอเชีย” หลังจากเสียชีวิตไปเมื่อปี 2003 ด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกขณะอายุเพียง 39 ปี โดยเธอเองก็ได้ทิ้งเอาไว้ซึ่งชื่อเสียง และความทรงจำที่ดีต่อผู้ชมในวงการมายา พร้อมกันนั้นยังมีสมบัติอีกกว่า 100 ล้านเหรียญฮ่องกง ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นประเด็นถกเถียงยืดเยื้อมานานกว่า 5 ปี เนื่องจากถันเหม่ยจิน แม่ของเธอซึ่งเป็นหนึ่งในทายาทผู้ได้รับผลประโยชน์จากทรัพย์สินก้อนนี้ ได้ยื่นฟ้องต่อศาล เหตุสงสัยในการทำพินัยกรรมก่อนสิ้นใจของลูกสาว
โดยในพินัยกรรมดังกล่าว เหมยเยี่ยนฟางระบุยกทรัพย์สมบัติให้แก่เพื่อนสนิทของเธอ “หลิวเผยจี” รวมทั้ง หลานๆ และได้ก่อตั้งมูลนิธิทรัส ฟาวเดชั่นขึ้นเพื่อจัดการกับมรดกทั้งหมด โดยไม่ให้ผู้เป็นแม่เข้ามายุ่งเกี่ยว ปัจจุบันถันเหม่ยจินวัย 84 ปี มีสิทธิได้รับเพียงเงินจากกองมรดกของลูกสาวเดือนละ 70,000 เหรียญฮ่องกง หรือ 9,000 เหรียญสหรัฐเท่านั้น
เมื่อวันพฤหัสบดี (16 เม.ย.) ที่ผ่านมา ศาลสูงสุดของฮ่องกงได้ทำการเบิกความให้ทนายความเฉินฉือ ประจำมูลนิธิทรัส ฟาวเดชัน (ผู้จัดการผลประโยชน์จากพินัยกรรม) เข้าชี้แจงถึงกรณีการเขียนพินัยกรรมของดาราสาวดังกล่าว พร้อมกับคณะแพทย์ที่ทำการรักษาให้กับเหมยเยี่ยนฟาง ซึ่งทางแพทย์ได้ยืนยันว่า ขณะที่เธอเขียนพินัยกรรมวันที่ 24 ธ.ค.2546 เธอมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนดีทุกอย่าง ก่อนที่จะมีอาการอยู่ในขั้นโคม่า และสิ้นใจลงเมื่อวันที่ 30 เดือนเดียวกัน
“ฉันไม่เชื่อว่าลูกสาวจะสามารถเขียนสิ่งที่อยู่ในพินัยกรรมนั้นได้ในช่วงเวลาที่เธอป่วย และฉันก็ต้องการให้ศาลพิจารณาให้พินัยกรรมฉบับนั้นเป็นโมฆะ เพราะผู้ที่สมควรได้รับผลประโยชน์ในสมบัตินั้นทั้งหมดควรจะเป็นฉัน” ถันเหม่ยจินแม่ของดาราสาวกล่าว
ด้านเฉินฉือ ทนายความประจำมูลนิธิที่ดาราสาวได้ก่อตั้งขึ้นนั้น ยังกล่าวอีกด้วยว่าหลังจากที่เหมยเยี่ยนฟางทราบว่าตนเองป่วย ก็ได้หารือถึงรายละเอียดของภาษีมรดกอย่างถี่ถ้วน ซึ่งเธอเองต้องการให้แม่มีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่เนื่องจากรู้ว่าบุพการีตนเองมือเติบ ไม่รู้จักควบคุมการใช้จ่าย และเกรงว่าท้ายที่สุดอาจลำบากในบั้นปลายชีวิต เธอจึงได้ตั้งมูลนิธิดังกล่าวขึ้นเพื่อเลี้ยงดูผู้เป็นแม่