ไชน่าเดลี่ – ทางการจีนตัดสินใจปรับลดราคาค่าบัตรผ่านประตูสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังหลายแห่งในมณฑลทางตอนใต้ของจีน หลังเผชิญมรสุมพายุหิมะพัดถล่ม จนนักท่องเที่ยวหายกำไรหดกันเป็นแถว
หลังจากประเทศจีน โดยเฉพาะทางตอนใต้ของประเทศ ประสบกับภัยพายุหิมะถล่มหนักสุดในรอบ 50 ปีเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งไม่มีนักท่องเที่ยวย่างกรายไปเลยติดต่อกันนานถึง 20 วันในช่วงที่อากาศแปรปรวนและหลังจากพายุซาลง สร้างความเสียหายแก่ประเทศจีนประมาณ 6,970 ล้านหยวน จากข้อมูลของคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งชาติ (CNTA) ที่เปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้
ต่อวิกฤตดังกล่าวทำให้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งผุดมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยว ด้วยการเสนอลดราคาแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปด้วยตัวเอง และให้สิทธิพิเศษสำหรับผู้ประกอบการทัวร์
ดังเช่น เขตทิวทัศน์ธรรมชาติอู่หลิงหยวน ทางตอนเหนือของเมืองจางเจียเจี้ย ในมณฑลหูหนัน ซึ่งองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของจีน ด้วยเพราะมีหมู่เสาหินและยอดเขาหินทรายแหลมเล็กสูง 200 เมตรขึ้นไป ตั้งตระหง่านสลับซับซ้อนกินบริเวณกว้าง แลดูแปลกตายิ่งนัก
ที่นี่ได้มีการขยายอายุนโยบายสิทธิพิเศษช่วง low season สำหรับผู้ประกอบการทัวร์จนกระทั่งถึงปลายเดือนนี้ ซึ่งนับว่ายาวนานกว่าปกติถึง 4 สัปดาห์
เช่นเดียวกับภูเขาจิ่งกังซัน ในมณฑลเจียงซี ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดกองกำลังปลดแอกประชาชนของเหมาเจ๋อตง และได้รับการขนานนามว่าเป็น “จุดกำเนิดแห่งการปฏิวัติของจีน” ก็ลดค่าบัตรผ่านประตูลง 20% เหลือ 156 หยวนต่อคน ช่วงก่อนวันที่ 15 มีนาคม
ส่วนเขาหวงซัน มรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ในมณฑลอันฮุย ก็ลดค่าผ่านประตูจาก 120 หยวน เหลือ 100 หยวนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยหู ลี่หมิง รองผู้อำนวยการคณะกรรมการบริหารจัดการเขาหวงซันกล่าวว่า “มาตรการลดราคาตั๋วนั้นได้ผลดี หลังจากเผชิญสภาพอากาศเลวร้าย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางมาจากมณฑลใกล้เคียง เพื่อมาเที่ยวที่นี่ในระยะเวลาสั้นๆ”
ด้านเจ้าหน้าที่อาวุโส ของ CNTA กล่าวว่า พายุหิมะเมื่อช่วงต้นปีเป็นหายนะครั้งใหญ่ที่กระหน่ำอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจีน หลังจากที่เมื่อ 5 ปีก่อนจีนเคยประสบวิกฤตมาแล้วจากการระบาดของโรคซาร์ส โดยอู๋ เหวินเซี่ยว์ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายวางแผนและการเงินของ CNTA กล่าวในงานแถลงข่าวที่ปักกิ่งเมื่อต้นเดือน“พวกสาธารณูปโภคพื้นฐานเสียหาย ก็สามารถซ่อมแซมได้ในเวลาไม่นาน แต่ธรรมชาติไม่สามารถกู้กลับคืนได้ในระยะเวลาอันสั้น”
ขณะที่หยาง จวิน รองประธานสมาคมการท่องเที่ยวกุ้ยโจว เผยว่า แหล่งท่องเที่ยวและจุดถ่ายภาพที่ช่างภาพหลายคนนิยมกัน อย่างภาพดอกต้นเรพสีเหลืองทอง ที่บานเต็มเขาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ไม่น่าจะมีให้เห็นที่กุ้ยโจวในปีนี้ เพราะดอกส่วนใหญ่แข็งตายไปแล้วเมื่อต้นปี ยกเว้นทางตะวันตกและตอนเหนือของกุ้ยโจวที่ยังพอมีเหลือแบบหลอมแหลม ส่วนป่าไผ่ในเมืองจิ่งกังซัน ก็ถูกทำลายไปส่วนหนึ่งด้วย