รอยเตอร์ – เจ้าหน้าที่เขตปกครองตนเองมองโกเลียตอนใน ใช้อำนาจเถื่อนยึดหนังสือ ซึ่งแต่งโดยคุณครูสาวชาวมองโกเลีย ที่เพียงแค่ต้องการแสดงความรู้สึกนึกคิดส่วนตัว และไม่เกี่ยวกับประเด็นอ่อนไหวทางการเมือง
“ ศูนย์ข้อมูลสิทธิมนุษยชนแห่งมองโกเลียตอนใต้” ซึ่งเป็นกลุ่มสิทธิมนุษยชนพลัดถิ่น ออกแถลงการณ์ในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เมื่อต้นสัปดาห์ ว่า เจ้าหน้าที่ได้ยึดหนังสือ ชื่อเรื่องว่า “Silent Rock” ซึ่งแต่งโดย Huuchinhuu ทั้งหมด โดยปราศจากการใช้กระบวนการทางกฎหมายใด ๆ
เหตุการณ์เกิดขึ้นที่เมืองทงเหลียว โดยก่อนหน้านี้ ทางการไม่อนุญาตให้พิมพ์หนังสือเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม Huuchinhuuได้เตรียมการ ที่จะพิมพ์เผยแพร่ให้ได้ โดยได้ถ่ายสำเนาไว้หลายฉบับ และเก็บไว้ตามบ้านญาติและเพื่อนร่วมงาน เด็กนักเรียนโรงเรียนมัธยมแห่งมองโกเลียกว่า 12 คน ที่ซื้อ ก็ถูกยึดหนังสือไปด้วย
“เจ้าหน้าที่บอกเด็ก ๆ ว่า ถ้ายังขืนซื้อและอ่านหนังสือเล่มนี้อีก ก็จะถูกเนรเทศ”
Huuchinhuu เชื่อว่า ทางการจ้องเล่นงานเธอ เพราะเธอเป็นสมาชิกของ”กลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยแห่งมองโกเลียตอนใต้” ซึ่งทางการประกาศให้เป็นกลุ่มนอกกฎหมาย นอกจากนั้น เธอยังได้รับเงินเดือนครูน้อยกว่าเพื่อนร่วมงานถึงครึ่งหนึ่ง เพราะไม่ยอมละทิ้งความเชื่อของตัวเอง
“การปฏิเสธให้ความร่วมมือทำให้เธอตกเป็นเป้าถูกลงโทษต่าง ๆ” ทางกลุ่มระบุ
”กลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยแห่งมองโกเลียตอนใต้” เคลื่อนไหว เพื่อขยายสิทธิของชนเชื้อสายมองโกเลีย มีHADA เป็นผู้นำ แต่ตอนนี้ต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 15 ปีฐานเคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดน และเป็นจารชน
การอพยพเข้ามาของชาวฮั่นในเขตปกครองตนเองมองโกเลียตอนใน ซึ่งดำเนินมานานหลายทศวรรษ ส่งผลให้ชาวจีนเชื้อสายมองโกเลียกลายเป็นชนกลุ่มน้อยในดินแดนมาตุภูมิของตนเองไป โดยจากข้อมูลของทางการระบุว่า มีไม่ถึงร้อยละ20ของประชากรทั้งหมด ซึ่งมีเกือบ 24 ล้านคน
แม้รัฐบาลจีนกล่าวว่าให้การคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิและวัฒนธรรมของชาวมองโกเลีย แต่ก็ยังคงควบคุมพวกชนกลุ่มน้อยอย่างเข้มงวด เนื่องจากวิตกการก่อความวุ่นวายของชนกลุ่มน้อยในดินแดนพรมแดนทางยุทธศาสตร์ เช่น มองโกเลียตอนใน และทิเบต
ประเด็นสิทธิมนุษยชนในมองโกเลียตอนในเป็นที่ทราบในหมู่นานาชาติกันน้อย นอกจากนั้น ชาวมองโกเลียยังไม่มีบุคคลผู้ทุ่มเท ซึ่งเป็นที่รู้จักกว้างขวางในต่างแดนอย่างทะไลลามะ แห่งทิเบต หรือเรบิย่า คาเดียร์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ซึ่งได้รับการเรียกขานว่า “มารดาแห่งชาวอุยกูร์”