หลังจากรัฐบาลจีนลงทุนรณรงค์อย่างหนักอบรมมารยาทชาวเมืองปักกิ่ง เพื่อไม่ให้ขายหน้าฐานเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิก 2008 ล่าสุดผลสำรวจจากมหาวิทยาลัยพีเพิ้ลแห่งปักกิ่งระบุ ชาวปักกิ่งถ่มน้ำลาย และแซงคิวน้อยลง แต่ “ยังดีไม่พอที่จะอวดคนทั่วโลก”
ทางมหาวิทยาลัยฯ ได้จัดทำดัชนีความสุภาพ ซึ่งจะอิงตามความถี่ของการกระทำผิดทางวัฒนธรรมของชาวเมือง ผ่านการสำรวจความคิดเห็นของชาวเมืองมากกว่า 10,000 คน และชาวต่างชาติ 1,000 คน ตลอดจนการเฝ้าสังเกตการตามสถานที่ต่างๆ ในเมืองเป็นเวลา 3,000 ชั่วโมง ซึ่งดัชนีนี้เองจะเป็นตัวตัดสินว่าความพยายามของรัฐบาลในการยกระดับชาวเมืองปักกิ่งให้มีความศิวิไลซ์มากขึ้นนั้นมีประสิทธิภาพหรือไม่
โดยดัชนีความสุภาพเมื่อปีที่แล้วปรับขึ้นมาอยู่ที่ 73.38 จากเดิม 69.06 เมื่อปี 2006 และ 65.21 เมื่อปี 2005 อย่างไรก็ตามดัชนีดังกล่าวก็ยังไม่ถึงเป้า 80 ที่ตั้งเอาไว้
จากการสำรวจพบว่าความถี่ในการทิ้งขยะตามท้องถนนลดลงจาก 5.6% ในปี 2006 มาอยู่ที่ 2.86% ในปีที่แล้ว ขณะที่การแซงคิวก็ลดลงจาก 6% เป็น 1.5% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลปักกิ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้ออกแคมเปญต่างๆ เพื่ออบรมมารยาทชาวเมือง รวมไปถึงการกำหนดวันที่ 11 ของทุกเดือนให้เป็นวันเข้าแถว ปรับคนที่ถ่มน้ำลายตามพื้นถนน รวมทั้งกวาดล้างขอทานในเมือง