เอเอฟพี – ไชน่า โมบาย ทำที่ประชุมเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาโวส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 23-27 มกราคม หนาวถึงกระดูก หลังซีอีโอเผย รู้ข้อมูลผู้ใช้ละเอียด “เป็นใคร อยู่ที่ไหน” ที่ประชุมหวั่นรัฐบาลจีนล้วงตับ ใช้ข้อมูลจากบริษัทสอดส่องประชาชน
หวังเจี่ยนโจ้ว ซีอีโอของไชน่า โมบาย ยักษ์โทรคมนาคมแดนมังกร ซึ่งมีลูกค้ามากกว่า 300 ล้านราย ทำที่ประชุมเศรษฐกิจโลกหนาว เมื่อหวังเผยข้อมูลกลางที่ประชุมอนาคตเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือว่า “ไชน่า โมบาย สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าได้อย่างไม่จำกัด และทางบริษัทก็ส่งข้อมูลดังกล่าวให้กับรัฐ เมื่อเจ้าหน้าที่ความมั่นคงร้องขอ”
คำสารภาพดังกล่าวทำเอาตัวแทนจากทั่วโลกถึงกับตะลึง เอ็ด มาร์คีย์ ประธานคณะอนุกรรมการโทรคมนาคมของสภานิติบัญญัติสหรัฐฯชี้ว่า “คำกล่าวของซีอีโอไชน่า โมบาย ทำเอาที่ประชุมหนาวถึงกระดูก”
“เรารู้ว่าคุณเป็นใคร อยู่ที่ไหน” ซีอีโอไชน่า โมบายเผย ทั้งนี้ยักษ์โทรคมนาคมแดนมังกรมีลูกค้าเพิ่มขึ้นราว 6 ล้านรายต่อเดือน จนกลายเป็นบริษัทโทรคมนาคมใหญ่ที่สุด เมื่อคิดคำนวณตามปริมาณผู้ใช้งาน
ขณะที่หวัง ซีอีโอของไชน่า โมบาย กำลังอธิบายถึงวิธีการที่ทางบริษัทนำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า มาใช้เพื่อขายโฆษณาและบริการ โดยอิงกับสถานะปัจจุบันของลูกค้าว่า อยู่ที่ไหน และกำลังทำอะไรอยู่ อาทิ หากลูกค้าอยู่ใกล้บริเวณร้านอาหารจานด่วน ทางบริษัทก็จะส่งโฆษณาส่วนลดไปยังมือถือของลูกค้า
มาร์คีย์ ผู้แทนจากสหรัฐกังวลว่า การเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว อาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
ก่อนหน้านี้ยักษ์อินเตอร์เน็ตแดนอินทรี ยาฮูก็ถูกฟ้องในข้อกล่าวหาช่วยรัฐบาลจีนติดตามลูกค้าของตนคือ ซือเทา ซึ่งขณะนั้น จีนต้องการล่าตัวนายซือเทามาลงโทษ ฐานเผยแพร่ความลับของรัฐด้วยการโพสต์คำสั่งของรัฐบาลที่ห้ามองค์กรสื่อจัดทำรายงานบทความใดๆเกี่ยวกับการเรียกร้องประชาธิปไตยในวาระครบรอบเหตุการณ์ปราบปรามนองเลือดที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน กระทั่ง ถูกศาลจีนตัดสินโทษจำคุก 10 ปี ในปี 2005
โจนาธาน ซิตเทรน ศาสตราจารย์ด้านอินเตอร์เน็ตภิบาล (Internet governance) แห่งมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ดชี้ว่า โทรศัพท์มือถือกลายเป็น อุปกรณ์ที่เป็นภัยต่อสิทธิส่วนบุคคลในทุกประเทศ
“เป็นเรื่องน่าฉงนที่อุปสงค์ของผู้บริโภคในกลไกตลาด เป็นผู้สร้างเครือข่ายสอดส่องอันซับซ้อน ถึงขั้นล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของเขาเสียเอง กล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่รัฐบาลเป็นผู้ติดตั้งละเมิดสิทธิส่วนบุคคลแน่นอน ไม่มีข้อกังขา แต่สำหรับโทรศัพท์มือถือ ผู้บริโภคกำลังจ่ายเงินสนับสนุนการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของตนเอง”