ซินหัวเน็ต - ศูนย์ข้อมูลด้านการกุศลแห่งประเทศจีน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงกิจการพลเรือนและองค์กรการกุศลอื่นๆ เปิดเผยรายงานฉบับล่าสุดว่า จำนวนองค์กรการกุศลเอกชนเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก ซึ่งคาดว่าในอนาคต มูลนิธิเอกชนจะแซงหน้าองค์กรรัฐบาลและเอ็นจีโอ กลายเป็นแหล่งบริจาคเงินทุนรายหลักของประเทศ
ภายใต้กฎหมายภาษีเงินได้นิติบุคคลใหม่ซึ่งระบุว่า บริษัทที่บริจาคเงินเข้าการกุศลคิดเป็น 12% ของรายได้ต่อปีทั้งหมดจะได้รับยกเว้นภาษี แทนที่จะเป็น 3% อย่างกฎเก่าระบุ ทำให้เปอร์เซ็นต์การบริจาคเงินเพื่อการกุศลของกลุ่มบริษัทมีสูงขึ้น
อีกทั้งที่ผ่านมาองค์กรรัฐบาลและสื่อต่างๆ ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกิจกรรมการกุศลมากขึ้น กระตุ้นให้ประชาชนบริจาคเงินเข้าการกุศล ทำให้มีประชาชนหลายคน ทั้งผู้มีชื่อเสียงและศิลปินดารา หันมาบริจาคเงินหรือจัดตั้งกองทุนของตนเองเพิ่มมากขึ้น ดังเช่นเมื่อปี 2006 ที่ผ่านมา นักร้องสาว เฟย์ วอง (หวังเฟย) และหลี่ย่าเผิง สามีของเธอได้ก่อตั้งมูลนิธิเยี่ยนหรัน แองเจิล ตามชื่อของลูกสาวเธอ เพื่อช่วยเหลือเด็กที่มีอาการเพดานโหว่ เช่นเดียวกับลูกสาวของเธอด้วย
รายงานระบุการคาดการณ์ว่า ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า จำนวนมูลนิธิเอกชนจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลลดควบคุมองค์กรการกุศลของเอกชน อีกทั้งยังผุดนโยบายต่างๆ ขึ้นมาอำนวยความสะดวกอีก
ภายใต้กฎหมายภาษีเงินได้นิติบุคคลใหม่ซึ่งระบุว่า บริษัทที่บริจาคเงินเข้าการกุศลคิดเป็น 12% ของรายได้ต่อปีทั้งหมดจะได้รับยกเว้นภาษี แทนที่จะเป็น 3% อย่างกฎเก่าระบุ ทำให้เปอร์เซ็นต์การบริจาคเงินเพื่อการกุศลของกลุ่มบริษัทมีสูงขึ้น
อีกทั้งที่ผ่านมาองค์กรรัฐบาลและสื่อต่างๆ ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกิจกรรมการกุศลมากขึ้น กระตุ้นให้ประชาชนบริจาคเงินเข้าการกุศล ทำให้มีประชาชนหลายคน ทั้งผู้มีชื่อเสียงและศิลปินดารา หันมาบริจาคเงินหรือจัดตั้งกองทุนของตนเองเพิ่มมากขึ้น ดังเช่นเมื่อปี 2006 ที่ผ่านมา นักร้องสาว เฟย์ วอง (หวังเฟย) และหลี่ย่าเผิง สามีของเธอได้ก่อตั้งมูลนิธิเยี่ยนหรัน แองเจิล ตามชื่อของลูกสาวเธอ เพื่อช่วยเหลือเด็กที่มีอาการเพดานโหว่ เช่นเดียวกับลูกสาวของเธอด้วย
รายงานระบุการคาดการณ์ว่า ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า จำนวนมูลนิธิเอกชนจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลลดควบคุมองค์กรการกุศลของเอกชน อีกทั้งยังผุดนโยบายต่างๆ ขึ้นมาอำนวยความสะดวกอีก