xs
xsm
sm
md
lg

นักถ่มน้ำลายปักกิ่งเมินร่วมมือรัฐ ปรับภาพลักษณ์รับโอลิมปิกปีหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ป้ายห้ามถ่มน้ำลายริมถนนสายหนึ่งในปักกิ่ง
เอเอฟพี-“ถ่มน้ำลายดีต่อสุขภาพของคุณ!” กัว กุ้ยโหยว วัย 40 ปี คนเฝ้าจักรยานบริเวณสถานีรถไฟอันพลุกพล่านของปักกิ่ง ยืนตะโกนสนับสนุนการถ่มน้ำลาย พร้อมถ่มน้ำลายลงบนทางเท้า ก่อนใช้รองเท้าขยี้น้ำลายอย่างไม่หยี่ระ


แม้มติมหาชนจะออกมาแล้วว่า การถ่มน้ำลายเป็น”พฤติกรรมไร้อารยธรรม” ซึ่งเป็นข้อความที่ใช้รณรงค์เรื่องมารยาทก่อนหน้ามหกรรมกีฬาโอลิมปิก แต่ก็ยังพบผู้คนทั่วประเทศจีนถ่มน้ำลายกันอยู่เหมือนเดิม และแม้รัฐบาลจะเพิ่มบทลงโทษผู้ที่ถ่มน้ำลาย ซึ่งอาจถูกปรับสูงถึง 50 หยวน(ราว 250 บาท)แต่ก็ไม่อาจหยุดคนอย่าง กัวกุ้ยโหยว ได้

มีไม่กี่คนที่มาเที่ยวจีนและรับได้กับสิ่งที่เห็น แต่คนเหล่านี้ก็ยังรู้สึกว่ามีการถ่มน้ำลายในที่สาธารณะบ่อยเกินไป และปราศจากความอาย

อย่างไรก็ดี พฤติกรรมเช่นนี้ ไม่เพียงเกิดขึ้นกับประชาชนทั่วไปเท่านั้น อดีตผู้นำจีนอย่างเติ้ง เสี่ยวผิง ก็ได้ชื่อว่าเป็นนักถ่มตัวยง ที่มักมีกระโถนบ้วนน้ำลายวางไว้ใกล้ตัวขณะพบปะบุคคลระดับสูงที่มหาศาลประชาคมในนครปักกิ่งในช่วงทศวรรษ 1970-1980

แม้การกระทำดังกล่าวจะแพร่กระจายเชื้อโรค แต่ก็ยังพบเห็นคราบน้ำลายเปรอะเปื้อนอยู่ตามท้องถนนและซอกซอยต่างๆทั่วกรุงปักกิ่ง โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวซึ่งน้ำลายกลายเป็นน้ำแข็ง เป็นเรื่องน่าหวาดเสียวสำหรับคนเดินเท้า ขณะที่ชาวจีนส่วนใหญ่กลับเห็นว่า การถ่มน้ำลายเรื่องธรรมชาติของร่างกายเหมือนการจาม หรือเรอ และไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใด

“ไม่มีใครสนเรื่องถ่มน้ำลายกันหรอก”ซุยหนิงกัว คนขับรถแท็กซี่กล่าวขณะลดกระจกรถยนต์และถ่มน้ำลายออกนอกหน้าต่างรถ

ด้านผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ชี้ว่า ร่างกายจะผลิตเสมหะขึ้นมาเมื่อบุคคลนั้นเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ,ปอดระคายเคืองจากมลพิษ หรือเกิดจากพฤติกรรมต่างๆ เช่น การสูบบุหรี่ และการทานอาหารหนักและมันจัด

หลี่เหยียน ผู้เชี่ยวชาญโรคทางเดินหายใจ ของโรงพยาบาลเสียนอู่ ในปักกิ่งอธิบายว่า ปัจจุบัน ประชาชนติดเชื้อทางเดินหายใจกันมาก ส่วนหนึ่งเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เป็นมลพิษของจีน และประชาชนเองก็ละเลยที่จะเอาใจใส่ในเรื่องสุขอนามัยจนกลายเป็นนิสัย

“สภาพอากาศแห้งในหลายเมืองของจีน บวกกับคุณภาพอากาศย่ำแย่ ทำให้ร่างกายผลิตเสมหะออกมาในระบบทางเดินหายใจ นอกจากนี้ โรคทางเดินหายใจที่มากับอากาศ เช่น วัณโรค,ปอดบวม และไข้หวัดใหญ่ สามารถแพร่กระจายผ่านเสมหะของผู้ที่เป็นพาหะโรคดังกล่าว”

ด้านหวังจี้ตง ศาสตราจารย์มหาวิทยาลับแพทย์จีนปักกิ่งกล่าวว่า ชาวจีนมักถ่มน้ำลายเพราะมีความเชื่อว่า ควรถ่มน้ำลายเมื่อเกิดอาการระคายเคืองคอ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องนิสัยเสียมากกว่า เช่น บางคนถ่มน้ำลายทั้งที่ไม่มีเสมหะแต่มันเป็นเพียงน้ำลาย ซึ่งน้ำลาย เป็นสารคัดหลั่งปกติและช่วยในการย่อยอาหาร ดังนั้นจึงเป็นเพียงความเชื่อที่ผิด

ทั้งนี้ จางฟาฉิง รองหัวหน้าคณะกรรมการโอลิมปิกปักกิ่ง ออกมายอมรับเมื่อต้นปีนี้ว่า การอบรมมารยาทให้แก่ประชาชนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลก่อนมหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่จะมีขึ้นในเดือนสิงหาคมปีหน้า อาจเป็นงานหนักยิ่งกว่าการสร้างสนามกีฬาแห่งใหม่เสียอีก ขณะที่คนปักกิ่งบางรายกลับกล่าวว่า พวกเขาไม่สนใจเรื่องนี้ด้วยซ้ำ.
กำลังโหลดความคิดเห็น