เอเอฟพี-แพทย์เตือนผู้ใช้ยางรัดผมผลิตจากถุงยางอนามัยใช้แล้ว ซึ่งพบจำหน่ายเกลื่อนอยู่ทางภาคใต้ของจีน อาจติดเชื้อเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ไชน่าเดลี่รายงานวันอังคาร(13 พ.ย.)โดยอ้างคำกล่าวของ แพทย์ผิวหนังแซ่ตง จากโรงพบาบาลตำรวจกวางเจา(Guangzhou Hospital of Armed Police)
ตงกล่าวว่า ผู้ใช้ยางรัดผมดังกล่าวอาจติดเชื้อเอดส์,หูดที่อวัยวะเพศและโรคอื่นๆ หากคาบยางรัดผมไว้ที่ปากขณะรวบผมเป็นทรงต่างๆ เนื่องจากยังคงตรวจพบเชื้อแบคทีเรียและไวรัสภายในถุงยางอนามัยที่มีการนำกลับมาใช้ใหม่
ข่าวรายงานว่า ยางรัดผมซึ่งผลิตจากถุงยางอนามัยใช้แล้ว พบจำหน่ายอยู่ในตลาดและร้านเสริมสวยในเมืองตงกวนและกว่างโจว(กวางเจา) มณฑลกวางตุ้งทางภาคใต้ของจีนและได้รับการอุดหนุนอย่างดีจากลูกค้า โดยจำหน่ายในราคาเพียง 1.50 บาท ต่อ 1 ห่อ(10 เส้น) ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลออกมาชี้ว่า การนำถุงยางกลับมาใช้ใหม่เป็นสิ่งผิดกฎหมาย
ชื่อเสียงของอุตสาหกรรมการผลิตจีนถูกทำลายด้วยเรื่องอื้อฉาวตลอดช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ ซึ่งรวมถึง สินค้าปลอมและอันตรายที่ผลิตป้อนตลาดในและต่างประเทศ แต่ทางการจีนก็มิได้นิ่งนอนใจ พยายามสร้างความข้าใจกับสาธารณชนช่วงฤดูร้อน(พฤษภาคม-สิงหาคม)ที่ผ่านมาถึงความตั้งใจจริงของทางการจีนในการควบคุมตรวจตราภาคการผลิตของจีน
นอกจากปัญหาการผลิตสินค้าไม่ได้มาตรฐานในจีนแล้ว สถานการณ์โรคเอดส์ในจีนก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ จีนมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่เฉลี่ย 3,090 คนต่อเดือน ในจำนวนนี้ เกือบ 38% ติดเชื้อเอชไอวีผ่านทางเพศสัมพันธ์ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 30% และจนถึงปีนี้โรคเอดส์คร่าชีวิตชาวจีนไปกว่า 3,000 ราย หวังหนิง รองผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคจีนกล่าว
และเมื่อสิ้นเดือนกันยายนของปีนี้ มีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีทั้งสิ้น 220,000 ราย โดย 1 ใน 4 ของคนจำนวนนี้ป่วยเป็นโรคเอดส์ หวังกล่าว อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยโรคเอดส์ในจีนที่สหประชาชาติประเมินไว้ต้นปีนี้มาก ซึ่งอยู่ที่ราว 650,000 ราย
แม้สถานการณ์โรคเอดส์ในจีนจะทวีความรุนแรงขึ้น แต่เมื่อวันจันทร์(12 พ.ย.)เหมา ฉวินอัน โฆษกกระทรวงสาธารณสุขจีนว่า จีนมีแผนผ่อนคลายกฎระเบียบที่ระบุห้ามชาวต่างชาติที่ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ เข้าประเทศจีน โดยให้เหตุผลว่าปัจจุบันจีนมีความรู้ความเข้าใจวิธีการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสเอชไอวี(เอดส์)มากขึ้น อย่างไรก็ดี เหมาไม่ได้ระบุเวลาที่ชัดเจนในการบังคับใช้กฎใหม่.