ผู้จัดการรายสัปดาห์ - นายอินทร์แนะทำเนียบ 28 หนังสือจีนน่าอ่าน มีทุกหมวดตั้งแต่หมวดประวัติศาสตร์ ท่องเที่ยว การค้า วัฒนธรรม ชี้ “หวงอี้” มาแรงสุดหมวดนวนิยาย ดัน“จอมคนแผ่นดินเดือด” สุดยอดขายดี ขณะที่ “สามก๊ก”มีครบรส ทั้งวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ -ตัวละครเอก –แนวคิดเชิงปรัชญาให้เลือกอ่าน ทำให้ครองแชมป์หนังสือจีนอมตะ พร้อมแนะหนังสือการค้าการลงทุนมีมากที่ “ซีเอ็ด-ศูนย์หนังสือจุฬา”
สมัยก่อนถ้าพูดถึงหนังสือจีน คนส่วนใหญ่จะนึกถึง “นวนิยายจีนอมตะ” ซีรีส์ต่างๆ ของ 2 นักเขียนดัง คือ “โกวเล้ง”และ “กิมย้ง” ส่วนหนังสือจีนประเภทอื่น ๆ นั้น จะมีก็แต่แค่แนวประวัติศาสตร์สำหรับนักศึกษา-นักวิชาการที่ไปซื้อหามาอ่านกัน ส่วนหนังสือจีนไม่ว่าจะเป็นหนังสือแปลหรือหนังสือที่เขียนเล่าเรื่องต่าง ๆนั้น มีไม่ค่อยมากนัก...ซึ่งต่างกับทุกวันนี้
เปิดทำเนียบ 28 หนังสือจีนน่าอ่าน
ทองนาค เพ็งชนะ ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ร้านนายอินทร์ กล่าวว่า ปัจจุบันเนื่องจากกระแสจีนในเมืองไทยได้รับความนิยมมากขึ้น หนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประเทศจีนก็มีจำนวนมากขึ้นมากตามความสนใจและมีหลายประเภทด้วยกัน ได้แก่ หมวดประวัติศาสตร์ หมวดปรัชญา ศาสนา หมวดนวนิยายจีน หมวดท่องเที่ยว หมวดวัฒนธรรมจีน หมวดการค้าการลงทุน
สำหรับร้านจัดจำหน่ายรายใหญ่เวลานี้นั้นก็มีหลายร้านด้วยกัน ที่สำคัญที่จะมีหนังสือจีนวางจำหน่ายคือ นายอินทร์ ซีเอ็ดบุค และศูนย์หนังสือจุฬาฯ โดยทั้ง 3 ร้านก็จะมีการเน้นขายหนังสือในแต่ละหมวดแตกต่างกันไป เช่นนายอินทร์จะเน้นหนังสือเชิงประวัติศาสตร์ นวนิยายจีน ท่องเที่ยว วัฒนธรรม แต่จะมีหนังสือแนวการค้าการลงทุนในจีนน้อย ขณะที่ซีเอ็ดบุค และศูนย์หนังสือจุฬาฯ จะมีหนังสือหมวดการค้าการลงทุนมากกว่า
อย่างไรก็ดีนายอินทร์ได้จัดทำทำเนียบหนังสือจีนน่าอ่านในหมวดต่าง ๆ โดยเรียบเรียงมาจากยอดขาย และหนังสือที่น่าสนใจ จำนวน 28 เรื่อง ดังนี้
หนังสือที่ขายดี เป็นหนังสือคลาสสิกในหมวดประวัติศาสตร์ จะมี 2 เล่มด้วยกัน คือ 1.ประวัติศาสตร์จีน โดย ทวีป วรดิลก เป็นหนังสือเชิงประวัติศาสตร์ที่มีเนื้อหารวบรวมทุกราชวงศ์ของจีน ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนมาถึงยุคที่เปลี่ยนการปกครองเป็นแบบสาธารณรัฐ มีการปกครองระบอบคอมมิวนิตย์ ซึ่งได้รับความนิยมมากในหมู่นักประวัติศาสตร์ นักศึกษาที่สนใจศึกษาประวัติศาสตร์จีน หนังสือเล่มนี้จัดทำตั้งแต่ปีพ.ศ. 2537 และปัจจุบันมีการพิมพ์มาแล้วถึง 9 ครั้ง
2.หนังสือ ประวัติศาสตร์จีน โดยสำนักพิมพ์นานมี อาจารย์วิไล ลิมถาวรานันต์,อาจารย์ศรีวิกาญจน์ กุลยานนท์,อาจารย์เอกสัณห์ ชินอัครพงศ์ เป็นผู้แปล และ ผศ.ปกรณ์ ลิมปนุสรณ์ เป็นบรรณาธิการ โดยจะมีเนื้อหาสรุปครอบคลุมทุกราชวงศ์ของจีนมีภาพสีประกอบ จุดเด่นคือมีผังราชวงศ์ให้ดูอย่างง่าย ๆ และมีเนื้อหาที่ทันสมัยมากกว่าเล่มแรก เพราะพิมพ์ในปีพ.ศ.2547
บูเช็คเทียน-จักรพรรดินีโหด
ต่อมาเป็นหนังสือจีนหมวดประวัติศาสตร์เชิงอัตชีวประวัติ หรือ พงศาวดารจีน เล่มที่เด่นๆ คือ จักรพรรดินีโหด เขียนโดย หลินยู่ถัง และแปลโดย กิติมา อรมทัต ของสำนักพิมพ์มติชน หนังสือเล่มนี้เป็นการบรรยายถึงจักรพรรดินีคนสำคัญของจีนที่ชื่อ “หวู่เจ๋อเทียน” หรือ “บูเช็คเทียน” ตั้งแต่เริ่มแรกเข้ามาอยู่ในวังในฐานะนางกำนัลผู้ต่ำต้อย แต่ภายหลังจากความเก่งกาจได้ทำให้นางก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จและเป็นจักรพรรดินีองค์แรกของจีน ซึ่งแม้จะมีหนังสือเรื่องบูเช็คเทียนออกมาหลายเล่ม แต่เล่มนี้มีจุดเด่นที่ฉายภาพความร้ายกาจของพระนางได้อย่างถึงพริกถึงขิง
เรื่อง ถังไท่จง ฮ่องเต้ โดยวัชระ ชีวะโกเศรษฐ สำนักพิมพ์สุขภาพใจ ที่บรรยายถึงยุคทองของศักดินาเป็นยุครุ่งโรจน์ที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด มั่งคั่งร่ำรวยที่สุด มากอนุภาพและมีอารยธรรมสูงสุด
3 ฉบับ “สามก๊ก” 3 ความต่าง
ต่อมาเป็นเรื่องอมตะที่มีการจัดทำกันหลายเล่มหลายภาคคือ เรื่อง “สามก๊ก” แต่ฉบับที่อยากแนะนำมี 3 ฉบับด้วยกัน คือ ตำราพิชัยสงคราม สามก๊ก แปลและเรียบเรียงโดย สุภาณี ปิยะพสุนทรา สำนักพิมพ์แสงดาวและสามก๊กของ วันชัย ประชาเรืองวิทย์ และ สามก๊กของวิวัฒน์ ประชาเรืองวิทย์ สำนักพิมพ์ต้นไม้
ตำราพิชัยสงคราม สามก๊ก ของ สุภาณี นี้ถือเป็นหนังสือเล่มแรกในซีรีส์สามก๊กที่วิเคราะห์แตกต่างไปจากเล่มอื่น ๆ เพราะจะวิเคราะห์แนวคิดในเชิงปรัชญา ไม่ได้วิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ทางการเมืองเหมือนเล่มอื่น ๆ เช่น ตอนที่ 13 มีการบรรยายถึง อุบายของตันก๋ง ที่บอกว่า “นกที่ดีต้องรู้จักเลือกต้นไม้ทำรัง ขุนนางที่ปราดเปรื่องต้องรู้จักเลือกเจ้านายทำการ” ซึ่งสุภาณีบรรยายว่า คนเก่งต้องรู้สึกเลือกเจ้านายที่เก่งในชีวิตประจำวันด้วย และต้องเลือกทำงานในบริษัทที่ดี เพราะจะสามารถแสดงศักยภาพในการทำงานได้เต็มที่ ซึ่งเล่มนี้เพิ่งจะมีการจัดพิมพ์ในปี 2550 นี้
ขณะที่ สามก๊ก ของ วันชัย ประชาเรืองวิทย์ จะเป็นเล่มที่ขายดีมาตลอด โดยจะกล่าวถึงกลยุทธ์ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั้ง การเมือง การปกครอง การทหาร ฯลฯ ขณะที่ สามก๊ก เล่มของ วิวัฒน์ ประชาเรืองวิทย์ มีจุดเด่นคือวิจารณ์ตัวละครเอก ทั้งบุคลิก ลักษณะนิสัย จุดเด่น จุดด้อย มีตัวอย่างรูปตัวละครหลักประกอบ มีทั้งหมด 2 เล่ม เล่ม 1 บรรยายตัวละครใหญ่ ๆ 39 ตัวละคร เช่นฮั่นเหี้ยนเต้,นศึกโจโฉ,ตั้งโต๊ะ ฯลฯ เล่ม 2 บรรยายตัวละครแม่ทัพ นายทหาร คนสำคัญ ๆ 76 ตัวละคร เช่น เตียหุย,พั่งท่ง,กวนอู ฯลฯ
ไกด์เที่ยว-หอบเป้เรียนจีนอย่างประหยัด
หมวดสารคดีท่องเที่ยว ขอแนะนำ เรื่อง “จีน” โดยสำนักพิมพ์หน้าต่างสู่โลกกว้าง ซึ่งมีการจัดทำโดยแปลจากฉบับภาษาอังกฤษที่ได้รับความนิยมทั่วโลก หนังสือเล่มนี้มีจุดเด่นคือมีลักษณะเป็น Insight guide ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ การเดินทางท่องเที่ยว ที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร อาหารเด่นแต่ละมณฑล แผนที่การเดินทางอย่างละเอียด ศูนย์การค้าต่าง ๆ รวมไปถึงธรรมเนียมปฏิบัติบนโต๊ะอาหารจีนด้วย ซึ่งจุดเด่นในฉบับภาษาไทยจะมีการเพิ่มเขตอุตสาหกรรมของจีนเข้ามารวมด้วย
อีกเล่มคือ สารคดีท่องเที่ยวประเทศจีนชุด “ปฐพีมังกรของฮ่องเต้” โดยทีมงานต่วยตูน ซึ่งจะเน้นประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมจีน อารยธรรมโบราณ ภาพวาด รูปปั้น เน้นไปที่ศิลปะวัฒนธรรมโบราณ ซึ่งเป็นเกร็ดเล็ก ๆ ที่รวบรวมมาจากหนังสือต่วยตูน เช่น หมู่ถ้ำพระของจีน ฮ่องเต้พระองค์แรก “จิ๋นซีฮ่องเต้” สุสานฮ่องเต้ เป็นต้น
ส่วนคนที่สนใจทั้งไปท่องเที่ยวและไปเรียนในจีน แบบการพึ่งพาตนเอง ในราคาประหยัดที่สุด แนะนำเรื่อง “ตะลุยแดนมังกร ตะลอนในปักกิ่ง” โดย หม่าคังเหม่ย เป็นเล่มที่แนะนำการไปเรียนต่อเมืองจีนอย่างละเอียด การเตรียมตัวไปเรียน และทำอย่างไรไม่ให้โฮมซิก จัดทำโดยสำนักพิมพ์ฐานบุ๊คส์ ที่เพิ่งจัดพิมพ์ออกมาในปีนี้ จึงมีความทันสมัยมาก
นิยายจีนต้อง “หวงอี้”
หมวดนวนิยายจีน ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง และเป็นหนังสือจีนที่ขายดีที่สุดของร้านนายอินทร์มายาวนาน มีตั้งแต่อมตะนิยายอย่างซีรีส์ของ โกวเล้ง ที่มี 4 เรื่องเอกคือ ฤทธิ์มีดสั้น ดาบจอมภพ จอมดาบหิมะแดง และเหยี่ยวเดือน 9 มีจุดเด่นที่เน้นวิทยายุทธ์ต่าง ๆ ขณะที่ กิมย้ง ต้องอ่าน มังกรหยก ทั้ง 3 ภาค จุดเด่นของกิมย้งคือบรรยายฉากการต่อสู้ที่สวยงาม
ปัจจุบันนักเขียนนวนิยายจีนที่มาแรงที่สุดต้องยกให้ “หวงอี้” ที่มีลักษณะการเขียนที่มีจุดเด่นที่เรื่องราวกระชับ ไม่เยิ่นเย้อ มีนวนิยายออกมาแล้ว 4 ชุดคือ เจาะเวลาหาจิ๋นซี เทพมารสะท้านภพ มังกรคู่สู้สิบทิศ และ จอมคนแผ่นดินเดือด ซึ่งจอมคนแผ่นดินเดือดเป็นเล่มที่ขายที่ที่สุดในช่วงนี้
หมวดวัฒนธรรม นาทีนี้คงไม่มีใครเขียนวัฒนธรรมจีนได้น่าสนใจเท่ากับ จิตรา ก่อนันทเกียรติ ซึ่งได้เขียนหนังสือแนววัฒนธรรมจีนจนโด่งดัง และได้รับความนิยมมาก เล่มที่ขายดีที่สุดคือเล่มแรกที่ออกมาชื่อ ความรู้เรื่องจีนจากผู้เฒ่า พิมพ์ครั้งแรกปี 2536 ปัจจุบันมีการตีพิมพ์มาแล้วมากถึง 23 ครั้ง จนได้รับรางวัลในงานสัปดาห์หนังสือ จากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติปี 2537 มาแล้ว
เจาะการค้าในจีน-เรียนเคล็ดสำเร็จจากเจ้าสัว
ในส่วนหนังสือหมวดการค้าการลงทุน ขอแนะนำเรื่อง มองจีน มองไทย โดยอาจารย์อักษรศรี พานิชสาสน์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ปัจจุบันได้รับการยอมรับจากสังคมว่าเป็นคนที่ศึกษาจีนได้อย่างละเอียดลึกซึ้งคนหนึ่งในประเทศไทย โดยหนังสือเล่มนี้จะบอกถึงมณฑลที่น่าสนใจทำการค้า ซึ่งถือเป็นหนังสือเล่มแรก ๆ ในประเทศไทยที่แนะนำการค้าการลงทุนในจีนในแบบรูปธรรม ซึ่งปัจจุบันยังมีความทันสมัย
นอกจากนี้ยังมีหนังสือของหอการค้าไทย-จีน ที่ได้จัดรวบรวมผู้นำนักธุรกิจไทยเชื้อสายจีนที่ประสบความสำเร็จมาแนะนำ ปัจจุบันได้ออกมาแล้ว 3 เล่ม ชื่อ Guru 1-3
เล่มสุดท้ายที่อยากแนะนำต้องอ่านคือ เปิดกรุภาษาจีนในใจนายห้างเทียม เคล็ดลับความสำเร็จ เทียม โชควัฒนา โดยสัญญลักษณ์ เทียมถนอม ซึ่งถ่ายทอดความสำเร็จในชีวิตการงานที่ยิ่งใหญ่ในฐานะประมุขเครือสหกรุ๊ป และวิธีคิดแบบนายห้างเทียม อาทิ “เราไม่จำเป็นต้องเดินถอยหลัง เพียงแต่หยุดอยู่กับที่ เราก็กลายเป็นผู้ล้าหลังทันที”


