ผู้จัดการรายสัปดาห์ - เปิด 6 เวปไซด์เจาะการค้าไทย-จีน มีทั้งเวปของภาคเอกชน ภาคสมาคม รัฐบาลไทยและรัฐบาลจีน มุ่งนำเอสเอ็มอีไทยเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน เชื่อตลาดอินเทอร์เน็ตจีนโตไม่หยุด จากคนใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่า 130 ล้านคน ในจำนวนนี้มีคนใช้ ASDL มากถึง 50 ล้านคน
หลายคนอาจเคยติดภาพเมืองจีน-สินค้าจีนว่าเชย ว่าล้าสมัย แต่ทุกวันนี้ไม่ใช่เช่นนั้น โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพราะจีนทุกวันนี้ มีจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมากเป็นอันดับสองของโลกรองจากอเมริกา คือกว่า 130 ล้านคน และมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ADSL มากกว่า 50 ล้านคน จนนักวิเคราะห์ระดับโลกจากหลายสำนักยังฟันธงว่าภายในอีก 5 ปี จีนจะมีจำนวนผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดในโลก และนี่เป็นช่องทางสำหรับการเจาะตลาดจีนที่สำคัญ!
ผู้จัดการรายสัปดาห์ได้รวบรวมเวปไซด์ที่ให้บริการโดยเฉพาะเรื่องของการสร้างสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทย-จีนทั้งเวปไซด์ของภาคเอกชน ภาครัฐบาลไทย ภาคสมาคมไทย และภาครัฐบาลจีนมาให้ตัวอย่างไว้ ณ ที่นี้ ซึ่งน่าสนใจและอาจเป็นโอกาสทางการค้าสำหรับผู้ที่ต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการเจาะตลาดจีน
เริ่มจากภาคเอกชน ทรงยศ คันธมานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัทแกรนด์แพลนเน็ทเอ็นเตอร์ไพรส์จำกัด ผู้ให้บริการเว็บสำเร็จรูป www.ReadyPlanet.com ซึ่งเป็นการให้บริการเวปไซด์สำเร็จรูปพร้อมใช้งาน เปิดเผยว่า การให้บริการเวปไซด์สำเร็จรูปพร้อมใช้งานนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านการเขียนเวปสามารถมีเวปไซด์ของตัวเองได้อย่างง่าย จึงเป็นประโยชน์มากสำหรับกลุ่มธุรกิจขนาดกลาง-ย่อม หรือ เอสเอ็มอี หลังจากได้เปิดตัวในเมืองไทยและให้บริการมากว่า 7 ปี ก็พบว่าประสบสำเร็จมาก จนมีแนวคิดที่อยากจะขยายตลาดไปยังต่างประเทศ และจีน เป็นประเทศเป้าหมายที่น่าสนใจที่สุด เพราะจีนเป็นตลาดใหญ่ มีเอสเอ็มอีจำนวนมาก และมีผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตมากถึง 130 ล้านคน
ในปีนี้ (2550) จึงได้มีการนำเซิร์ฟเวอร์ไปตั้งในเมืองจีน และเปิดให้บริการเวปไซด์สำเร็จรูปในจีนขึ้น ที่ www.ReadyPlanet.cn พบว่า หลังจากเปิดให้บริการมาเพียงไม่กี่เดือน ก็มีบริษัทเอ็สเอ็มอีของจีนสมัครเข้ามาใช้บริการกันแล้วหลายราย ซึ่งส่วนใหญ่ทำธุรกิจเกี่ยวกับก่อสร้าง ตกแต่งภายใน การจัดสัมมนาอบรมต่างๆ และการสอนหนังสือ และมีการเปิดให้คนจีนได้ทดลองใช้บริการฟรี ซึ่งมีผู้สนใจมากกว่า 10 รายต่อวัน ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของ ReadyPlanet ณ เวลานี้คือทำซอฟท์แวร์ไปขายหรือให้บริการในจีน ซึ่งเป็นการหาประสบการณ์และหาข้อมูลการค้าขายแบบ E-commerce ในจีน และต่อไปได้มีการวางแผนไว้ว่าจะเปิดโอกาสเป็นช่องทางสำหรับเอสเอ็มอีไทยไปเจาะตลาดจีนด้วย
สำหรับบริษัทเอสเอ็มอีไทยที่อยากเข้าใช้บริการเวปไซด์เพื่อเจาะตลาดจีน ขอแนะนำว่านักธุรกิจไทย ต้องศึกษาให้มั่นใจก่อนว่าสินค้านั้นๆจะสามารถขายในเมืองจีนได้ หลังจากนั้นก็ต้องมีทีมงานที่รู้ภาษาจีน ในการจัดทำเนื้อหาข้อมูลเป็นภาษาจีน พร้อมทั้งมีฝ่ายที่ให้บริการที่รู้ภาษาจีนด้วย เพราะลูกค้าคนจีนมักนิยมใช้ภาษาจีนในการติดต่อซื้อขายสินค้ามากกว่าภาษาอังกฤษ
อย่างไรก็ดีเตือนว่าปัญหาสำคัญที่สุดในจีนในการทำการค้าแบบอีคอมเมิรซ์ที่ประสบมาคือคนจีนส่วนใหญ่ไม่มีบัตรเครดิต เวลาซื้อสินค้าก็จะใช้วิธีโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ซึ่งคนที่จะทำธุรกิจอีคอมเมิรซ์ในจีนจึงจำเป็นต้องเดินทางไปจีนเพื่อเปิดบัญชี และควรไปตั้งสำนักงานย่อมๆ ไว้ในจีนด้วย
ททท.-ก.ต่างประเทศรุกหนักเจาะตลาดจีน
สำหรับภาครัฐบาลไทย หน่วยงานที่บุกและเดินหน้าใช้อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางสำหรับการดึงดูดลูกค้าคนจีนที่สำคัญคือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)และกระทรวงการต่างประเทศ
สรรเสริญ เงารังษี ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าในส่วนของททท. ได้แบ่งการงานด้านการจัดทำเวปไซด์ในจีน 2 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกคือได้ร่วมมือกับททท.สำนักงานปักกิ่งในการจัดทำเวปไซด์ www.tatbjs.org.cn ซึ่งจะเป็นเวปไซด์ที่รวมรวมข้อมูลอัพเดทด้านการท่องเที่ยวของไทย รวมถึงมีการให้เนื้อที่ส่วนหนึ่งเพื่อทำเวปลิงค์ให้กับบริษัทท่องเที่ยวของภาคเอกชนไทย ซึ่งบริษัทที่สนใจสามารถเขียนอีเมลล์ไปถึงสำนักงานการท่องเที่ยวไทยที่มหานครปักกิ่งตามเวปไซด์ดังกล่าว
อีกส่วนหนึ่ง ขณะนี้ททท.ได้ตกลงซื้อโฆษณาในหน้าเวปไซด์ของ CEC (Chief Exclusive China) ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ธุรกิจจีนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในจีนขณะนี้ด้วย โดยเป็นแคมเปญหนึ่งของททท.ในปีนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในประเทศไทยทั้งหมด ทั้งข้อมูลข่าวสาร การท่องเที่ยว ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของเวปไซด์ CEC นั้นก็เป็นกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนท์ในจีน แคมเปญนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ จนถึงประมาณเดือน กุมภาพันธ์ปี 2550 เพื่อเป็นการโฆษณาด้านการท่องเที่ยวของไทยในภาครวม
ด้านกระทรวงต่างประเทศ โดยกรมเอเชียตะวันออก เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาก็ได้เปิดตัวเวปไซด์ www.thaibizchina.com และเปิดตัวศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในจีน 9 แห่งในมหานครใหญ่ๆ คือ ปักกิ่ง,กวางโจว,คุนหมิง,เซี่ยงไฮ้,เฉิงตู,เซี่ยเหมิน,ซีอาน,หนานหนิง,และฮ่องกง เพื่อให้บริการแบบ “Walk-in Office Service” โดยใช้ www.thaibizchina.com เปิดให้บริการมาตั้งแต่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมาเป็นตัวกลางเชื่อมการค้าระหว่างไทย-จีนด้วย
tcbc.or.th ตัวกลางเชื่อมการค้าไทย-จีน
ด้านภาคสมาคมไทย สภาธุรกิจไทย-จีน เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่มีการเผยแพร่ข้อมูลการค้าระหว่าง 2 ประเทศผ่านทางเวปไซด์ของสภาฯ คือ www.tcbc.or.th ซึ่งสภาธุรกิจไทย-จีนเป็นความร่วมมือระหว่างระหว่างคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กับสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของจีน ( China Council for the Promotion of International Tradeccpit) วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งคือเป็นสะพานเชื่อมการค้าระหว่างไทย-จีนทั้งหมด โดยเฉพาะเน้นการส่งเสริมการขยายความร่วมมือของธุรกิจขนาดกลางและย่อมของทั้งสองประเทศด้วย
www.tcbc.or.th จึงเป็นเวปไซด์การส่งเสริมการค้าระหว่างไทย-จีนที่สำคัญอันหนึ่ง ซึ่งนอกจากให้ข้อมูลข่าวสารระหว่างกันแล้ว ยังเป็นตัวกลางในการจับคู่ธุรกิจไทย-จีนด้วย
พาณิชย์จีนจัดทำเวปไซด์เชื่อมภาคใต้ไทย
ด้านภาครัฐบาลจีนเองนั้น มีความเคลื่อนไหวในการใช้เวปไซด์ในการเชื่อมการค้าไทย-จีนเช่นกัน ที่น่าจับตาที่สุดคือ เวปไซด์ songkhla.mofcom.gov.cn เป็นเวปไซด์ของ เพื่อเป็นเวทีในการเชื่อมการค้าการลงทุนระหว่างจีนกับภาคใต้ของไทยโดยตรง
มร.จาง จื้อเหวิน กงสุลพาณิชย์ สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่าตั้งแต่เปิดให้บริการเวปไซด์ songkhla.mofcom.gov.cn และได้รับความสนใจจากนักธุรกิจจีนที่อยากมาลงทุนในภาคใต้ไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะสนใจที่จะมาเปิดโรงงานยางพาราสำเร็จรูป ธุรกิจไม้ยางพารา และโรงงานน้ำมันปาล์ม กันมาก
โดยข้อมูลที่นักธุรกิจจีนสนใจศึกษามากที่สุดเป็นเรื่องของภาษีและกฎระเบียบการค้าของไทย ขั้นตอนต่างๆ รวมทั้งสนใจเรื่องประเด็นความปลอดภัยทางชีวิตและทรัพย์สินด้วย
สำหรับคนไทย มีติดต่อเข้ามาทางเวปไซด์บ้างเช่นสนใจจะซื้ออพาท์เมนท์ในจีน แต่ยังมีนักธุรกิจติดต่อมาไม่มากนัก ทั้งนี้เวปไซด์ songkhla.mofcom.gov.cn มีแนะนำการค้าการลงทุนในจีนให้คนไทยด้วยเช่น กฎหมาย การค้าระหว่างประเทศ การลงทุน ภาษี บุคลากรจีน กลุ่มลูกค้า และอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งสำหรับนักธุรกิจไทยที่สนใจจะลงข้อมูลทางเวปไซด์ ทางสถานกงสุลใหญ่ฯ ยินดีให้บริการเช่นกัน โดยขอให้ส่งข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษมาที่ zhangzhiwen@mofcom.gov.cn หรือแฟกซ์มาที่ 074-326240
นอกจากนี้ยังมีเวปไซด์ของกระทรวงพาณิชย์จีน ที่ www.mofcom.gov.cn ที่มีข้อมูลการค้าการลงทุนในจีนที่นักธุรกิจจากทั่วโลกสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลได้ตลอดอีกด้วย
หลายคนอาจเคยติดภาพเมืองจีน-สินค้าจีนว่าเชย ว่าล้าสมัย แต่ทุกวันนี้ไม่ใช่เช่นนั้น โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพราะจีนทุกวันนี้ มีจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมากเป็นอันดับสองของโลกรองจากอเมริกา คือกว่า 130 ล้านคน และมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ADSL มากกว่า 50 ล้านคน จนนักวิเคราะห์ระดับโลกจากหลายสำนักยังฟันธงว่าภายในอีก 5 ปี จีนจะมีจำนวนผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดในโลก และนี่เป็นช่องทางสำหรับการเจาะตลาดจีนที่สำคัญ!
ผู้จัดการรายสัปดาห์ได้รวบรวมเวปไซด์ที่ให้บริการโดยเฉพาะเรื่องของการสร้างสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทย-จีนทั้งเวปไซด์ของภาคเอกชน ภาครัฐบาลไทย ภาคสมาคมไทย และภาครัฐบาลจีนมาให้ตัวอย่างไว้ ณ ที่นี้ ซึ่งน่าสนใจและอาจเป็นโอกาสทางการค้าสำหรับผู้ที่ต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการเจาะตลาดจีน
เริ่มจากภาคเอกชน ทรงยศ คันธมานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัทแกรนด์แพลนเน็ทเอ็นเตอร์ไพรส์จำกัด ผู้ให้บริการเว็บสำเร็จรูป www.ReadyPlanet.com ซึ่งเป็นการให้บริการเวปไซด์สำเร็จรูปพร้อมใช้งาน เปิดเผยว่า การให้บริการเวปไซด์สำเร็จรูปพร้อมใช้งานนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านการเขียนเวปสามารถมีเวปไซด์ของตัวเองได้อย่างง่าย จึงเป็นประโยชน์มากสำหรับกลุ่มธุรกิจขนาดกลาง-ย่อม หรือ เอสเอ็มอี หลังจากได้เปิดตัวในเมืองไทยและให้บริการมากว่า 7 ปี ก็พบว่าประสบสำเร็จมาก จนมีแนวคิดที่อยากจะขยายตลาดไปยังต่างประเทศ และจีน เป็นประเทศเป้าหมายที่น่าสนใจที่สุด เพราะจีนเป็นตลาดใหญ่ มีเอสเอ็มอีจำนวนมาก และมีผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตมากถึง 130 ล้านคน
ในปีนี้ (2550) จึงได้มีการนำเซิร์ฟเวอร์ไปตั้งในเมืองจีน และเปิดให้บริการเวปไซด์สำเร็จรูปในจีนขึ้น ที่ www.ReadyPlanet.cn พบว่า หลังจากเปิดให้บริการมาเพียงไม่กี่เดือน ก็มีบริษัทเอ็สเอ็มอีของจีนสมัครเข้ามาใช้บริการกันแล้วหลายราย ซึ่งส่วนใหญ่ทำธุรกิจเกี่ยวกับก่อสร้าง ตกแต่งภายใน การจัดสัมมนาอบรมต่างๆ และการสอนหนังสือ และมีการเปิดให้คนจีนได้ทดลองใช้บริการฟรี ซึ่งมีผู้สนใจมากกว่า 10 รายต่อวัน ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของ ReadyPlanet ณ เวลานี้คือทำซอฟท์แวร์ไปขายหรือให้บริการในจีน ซึ่งเป็นการหาประสบการณ์และหาข้อมูลการค้าขายแบบ E-commerce ในจีน และต่อไปได้มีการวางแผนไว้ว่าจะเปิดโอกาสเป็นช่องทางสำหรับเอสเอ็มอีไทยไปเจาะตลาดจีนด้วย
สำหรับบริษัทเอสเอ็มอีไทยที่อยากเข้าใช้บริการเวปไซด์เพื่อเจาะตลาดจีน ขอแนะนำว่านักธุรกิจไทย ต้องศึกษาให้มั่นใจก่อนว่าสินค้านั้นๆจะสามารถขายในเมืองจีนได้ หลังจากนั้นก็ต้องมีทีมงานที่รู้ภาษาจีน ในการจัดทำเนื้อหาข้อมูลเป็นภาษาจีน พร้อมทั้งมีฝ่ายที่ให้บริการที่รู้ภาษาจีนด้วย เพราะลูกค้าคนจีนมักนิยมใช้ภาษาจีนในการติดต่อซื้อขายสินค้ามากกว่าภาษาอังกฤษ
อย่างไรก็ดีเตือนว่าปัญหาสำคัญที่สุดในจีนในการทำการค้าแบบอีคอมเมิรซ์ที่ประสบมาคือคนจีนส่วนใหญ่ไม่มีบัตรเครดิต เวลาซื้อสินค้าก็จะใช้วิธีโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ซึ่งคนที่จะทำธุรกิจอีคอมเมิรซ์ในจีนจึงจำเป็นต้องเดินทางไปจีนเพื่อเปิดบัญชี และควรไปตั้งสำนักงานย่อมๆ ไว้ในจีนด้วย
ททท.-ก.ต่างประเทศรุกหนักเจาะตลาดจีน
สำหรับภาครัฐบาลไทย หน่วยงานที่บุกและเดินหน้าใช้อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางสำหรับการดึงดูดลูกค้าคนจีนที่สำคัญคือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)และกระทรวงการต่างประเทศ
สรรเสริญ เงารังษี ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าในส่วนของททท. ได้แบ่งการงานด้านการจัดทำเวปไซด์ในจีน 2 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกคือได้ร่วมมือกับททท.สำนักงานปักกิ่งในการจัดทำเวปไซด์ www.tatbjs.org.cn ซึ่งจะเป็นเวปไซด์ที่รวมรวมข้อมูลอัพเดทด้านการท่องเที่ยวของไทย รวมถึงมีการให้เนื้อที่ส่วนหนึ่งเพื่อทำเวปลิงค์ให้กับบริษัทท่องเที่ยวของภาคเอกชนไทย ซึ่งบริษัทที่สนใจสามารถเขียนอีเมลล์ไปถึงสำนักงานการท่องเที่ยวไทยที่มหานครปักกิ่งตามเวปไซด์ดังกล่าว
อีกส่วนหนึ่ง ขณะนี้ททท.ได้ตกลงซื้อโฆษณาในหน้าเวปไซด์ของ CEC (Chief Exclusive China) ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ธุรกิจจีนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในจีนขณะนี้ด้วย โดยเป็นแคมเปญหนึ่งของททท.ในปีนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในประเทศไทยทั้งหมด ทั้งข้อมูลข่าวสาร การท่องเที่ยว ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของเวปไซด์ CEC นั้นก็เป็นกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนท์ในจีน แคมเปญนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ จนถึงประมาณเดือน กุมภาพันธ์ปี 2550 เพื่อเป็นการโฆษณาด้านการท่องเที่ยวของไทยในภาครวม
ด้านกระทรวงต่างประเทศ โดยกรมเอเชียตะวันออก เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาก็ได้เปิดตัวเวปไซด์ www.thaibizchina.com และเปิดตัวศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในจีน 9 แห่งในมหานครใหญ่ๆ คือ ปักกิ่ง,กวางโจว,คุนหมิง,เซี่ยงไฮ้,เฉิงตู,เซี่ยเหมิน,ซีอาน,หนานหนิง,และฮ่องกง เพื่อให้บริการแบบ “Walk-in Office Service” โดยใช้ www.thaibizchina.com เปิดให้บริการมาตั้งแต่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมาเป็นตัวกลางเชื่อมการค้าระหว่างไทย-จีนด้วย
tcbc.or.th ตัวกลางเชื่อมการค้าไทย-จีน
ด้านภาคสมาคมไทย สภาธุรกิจไทย-จีน เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่มีการเผยแพร่ข้อมูลการค้าระหว่าง 2 ประเทศผ่านทางเวปไซด์ของสภาฯ คือ www.tcbc.or.th ซึ่งสภาธุรกิจไทย-จีนเป็นความร่วมมือระหว่างระหว่างคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กับสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของจีน ( China Council for the Promotion of International Tradeccpit) วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งคือเป็นสะพานเชื่อมการค้าระหว่างไทย-จีนทั้งหมด โดยเฉพาะเน้นการส่งเสริมการขยายความร่วมมือของธุรกิจขนาดกลางและย่อมของทั้งสองประเทศด้วย
www.tcbc.or.th จึงเป็นเวปไซด์การส่งเสริมการค้าระหว่างไทย-จีนที่สำคัญอันหนึ่ง ซึ่งนอกจากให้ข้อมูลข่าวสารระหว่างกันแล้ว ยังเป็นตัวกลางในการจับคู่ธุรกิจไทย-จีนด้วย
พาณิชย์จีนจัดทำเวปไซด์เชื่อมภาคใต้ไทย
ด้านภาครัฐบาลจีนเองนั้น มีความเคลื่อนไหวในการใช้เวปไซด์ในการเชื่อมการค้าไทย-จีนเช่นกัน ที่น่าจับตาที่สุดคือ เวปไซด์ songkhla.mofcom.gov.cn เป็นเวปไซด์ของ เพื่อเป็นเวทีในการเชื่อมการค้าการลงทุนระหว่างจีนกับภาคใต้ของไทยโดยตรง
มร.จาง จื้อเหวิน กงสุลพาณิชย์ สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่าตั้งแต่เปิดให้บริการเวปไซด์ songkhla.mofcom.gov.cn และได้รับความสนใจจากนักธุรกิจจีนที่อยากมาลงทุนในภาคใต้ไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะสนใจที่จะมาเปิดโรงงานยางพาราสำเร็จรูป ธุรกิจไม้ยางพารา และโรงงานน้ำมันปาล์ม กันมาก
โดยข้อมูลที่นักธุรกิจจีนสนใจศึกษามากที่สุดเป็นเรื่องของภาษีและกฎระเบียบการค้าของไทย ขั้นตอนต่างๆ รวมทั้งสนใจเรื่องประเด็นความปลอดภัยทางชีวิตและทรัพย์สินด้วย
สำหรับคนไทย มีติดต่อเข้ามาทางเวปไซด์บ้างเช่นสนใจจะซื้ออพาท์เมนท์ในจีน แต่ยังมีนักธุรกิจติดต่อมาไม่มากนัก ทั้งนี้เวปไซด์ songkhla.mofcom.gov.cn มีแนะนำการค้าการลงทุนในจีนให้คนไทยด้วยเช่น กฎหมาย การค้าระหว่างประเทศ การลงทุน ภาษี บุคลากรจีน กลุ่มลูกค้า และอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งสำหรับนักธุรกิจไทยที่สนใจจะลงข้อมูลทางเวปไซด์ ทางสถานกงสุลใหญ่ฯ ยินดีให้บริการเช่นกัน โดยขอให้ส่งข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษมาที่ zhangzhiwen@mofcom.gov.cn หรือแฟกซ์มาที่ 074-326240
นอกจากนี้ยังมีเวปไซด์ของกระทรวงพาณิชย์จีน ที่ www.mofcom.gov.cn ที่มีข้อมูลการค้าการลงทุนในจีนที่นักธุรกิจจากทั่วโลกสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลได้ตลอดอีกด้วย