ไชน่านิวส์ – กรรมการบริษัทเบียร์ชิงเต่าเคาะโต๊ะอนุมัติการตั้งโรงงานผลิตเบียร์ต่างแดนแห่งแรกของตนในประเทศไทย โดยหวังอาศัยเป็นฐานกระจายสินค้าสู่อาเซียน และตลาดนานาชาติ ด้านนักวิเคราะห์ชี้ การสยายปีกมาไทย จะเป็นหนึ่งในการปูทางสร้างแบรนด์ของชิงเต่าให้เป็นแบรนด์ระดับโลก
แผนการมาตั้งโรงงานในประเทศไทยของเบียร์ชิงเต่าได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมกรรมการบริษัทแล้ว โดยโครงการตั้งโรงงานการผลิตในไทยครั้งนี้ จัดเป็นการตั้งโรงงานผลิตในต่างประเทศแห่งแรกของบริษัท
นักวิเคราะห์ได้ระบุว่า การที่เบียร์ชิงเต่าจะไปตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย เป็นการส่งสัญญาณถึงการบุกขยายตลาดไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตลาดนานาชาติอย่างในยุโรป โดยระบุว่า ทางไทยเองก็คงมีความยินดีที่จะให้โรงงานของชิงเต่าเข้าไปจัดตั้ง เพราะจะทำให้เกิดการจ้างงานและผลักดันเศรษฐกิจในชุมชนได้
ส่วนสาเหตุที่บริษัทเบียร์ชิงเต่าเลือกตั้งโรงงานในไทยนั้น ก็มีเหตุผลมาจากการที่ไทยเป็นประเทศในเขตร้อนชื้น มีอากาศร้อนชื้อเกือบทั้งปี อีกทั้งเป็นประเทศที่เป็นที่นิยมในด้านการท่องเที่ยว ผนวกกับหลายปีที่ผ่านมา ปริมาณการบริโภคเบียร์ของชาวไทยก็เพื่อขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนั้น หลายปีที่ผ่านมา ยอดขายของเบียร์ชิงเต่าในประเทศไทยก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะการเข้าไทยในครั้งนี้ ทางบริษัทได้ใช้ระบบรุกด้วยการตลาดก่อนเข้ามาตั้งโรงงาน ซึ่งนักวิเคราะห์ยังมองว่า การที่เบียร์ชิงเต่าเริ่มต้นจากการส่งออกมาขาย จนถึงขั้นเข้ามาตั้งโรงงานในไทย จะเป็นการช่วยให้แบรนด์เบียร์ชิงเต่าเป็นที่รู้จักกว้างขวางมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการปูทางไปสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลกอีกด้วย
อนึ่ง เบียร์ชิงเต่าเริ่มเข้าสู่ทำเนียบเบียร์ดัง 10 อันดับแรกของโลกในปี 2003 เมื่อยอดจำหน่ายตลอดทั้งปีแตะระดับ 3.26 ล้านลิตร และในปีถัดมาคือเมื่อ 2004 ยอดจำหน่ายของชิงเต่าทะลุขึ้นถึง 3.71 ล้านลิตร มีส่วนแบ่งในตลาดทั่วประเทศจีน 12.8% ทำให้มูลค่าของแบรนด์ทะลุ 16,800 ล้านหยวน ติดกลุ่ม 10 ยอดแบรนด์ดังที่มีมูลค่าสูงสุดในแผ่นดินจีน พร้อมไปกับโรงงานผลิต 50 แห่งไปใน 18 มณฑลทั่วประเทศ และมีศักยภาพการผลิตตลอดทั้งปี 5.1 ล้านตัน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2005 นายพินิจ จารุสมบัติ รองนายกรัฐมนตรีเป็นตัวแทนฝ่ายไทย ลงนามในข้อตกลงการร่วมทุนเพื่อขยายธุรกิจเบียร์ชิงเต่าในไทย โดยการร่วมทุนมูลค่า 15,000,000 บาท และมีรายละเอียดว่า ฝ่ายไทย คือเบียร์ช้าง เป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ 70% และชิงเต่าเบียร์อีก 30% ซึ่งบริษัทดังกล่าวจะเป็นผู้รับผิดชอบการจัดจำหน่ายเบียร์ชิงเต่าทั้งหมดในประเทศไทย พร้อมสร้างเครือข่ายการจำหน่าย