การประชุมสมัชชาใหญ่ทั่วประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 17 ที่จะมีขึ้นในวันจันทร์(15 ต.ค.) เป็นกิจกรรมการเมืองที่ใหญ่ที่สุดของจีน มีวาระการประชุมทุก 5 ปี มีการชี้ขาดตำแหน่งผู้นำสูงสุดและทิศทางอนาคตของจีนในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยข้อมูลด้านล่างเป็นข้อเท็จจริงที่สำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
สมาชิกภาพ: พรรคคอมมิวนิสต์จีนนับเป็นพรรคการเมืองใหญ่สุดของโลก ประกาศตัวเลขสมาชิกพรรคฯล่าสุดในเดือนมิถุนายน ปี 2007 มีทั้งสิ้น 73,363,000 คน ประกอบด้วยสมาชิกจากภาคต่างๆได้แก่ แรงงาน 7,960,000 คน คิดเป็นสัดส่วนสมาชิกทั้งหมดเท่ากับ 10.8% ภาคเกษตรกร 23,102,000 คน 31.5% ผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค 21,346,000 คน 29.1% ทหาร-ตำรวจ 2.2% , นักเรียน 2.6% ,ผู้เกษียณอายุ 18.8% และอื่นๆอีก 5%
วันก่อตั้ง: ค.ศ. 1921 ที่นครเซี่ยงไฮ้ โดยคณะผู้แทนในการประชุมสมัชชาใหญ่ผู้แทนทั่วประเทศของพรรคฯครั้งที่หนึ่ง ซึ่งมีเหมาเจ๋อตงวัย 27 ปีรวมอยู่ด้วย
ฐานอำนาจ: จีนเป็นรัฐที่ปกครองโดยพรรคการเมืองพรรคเดียว บทบาทการนำต่างๆของพรรคถูกระบุไว้ในธรรมนูญของพรรค
เลขาธิการ: ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2002 และจะได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอีกสมัยในการประชุมสมัชชาใหญ่ผู้แทนพรรคฯครั้งที่ 17 นี้
อุดมการณ์สูงสุด: มีรากฐานจากแนวคิดปฏิวัติชนชั้นกรรมาชีพของลัทธิเลนินและลัทธิรวมหมู่ มุ่งปฏิวัติชนชั้นกรรมาชีพและลัทธิส่วนรวม แต่ปัจจุบันแนวคิดของพรรคฯเปลี่ยนไปมาก โดยหันมาส่งเสริมอุดมการณ์การพัฒนาทุนนิยมอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็รักษาไว้ซึ่งโครงสร้างทางการเมืองตามแบบคอมมิวนิสต์
เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ค.ศ.1921 มีการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนอย่างเป็นทางการ ดำเนินตามวิสัยทัศน์การปฏิวัติชนชั้นกรรมาชีพของลัทธิเลนิน
ค.ศ.1934-1935 พรรคฯย้ายฐานการปฏิวัติจากภาคตะวันออกเฉียงใต้ไปยังภาคเหนือของประเทศ เพื่อหนีการปิดล้อมของกองทัพจีนคณะชาติหรือก๊กมินตั๋ง(กั๋วหมิงตั่ง) โดยการเดินทางไกลครั้งทรหดครั้งนี้ ทำให้เหมาเจ๋อตงก้าวขึ้นเป็นผู้นำกุมอำนาจเบ็ดเสร็จ
ค.ศ.1949 พรรคคอมมิวนิสต์เข้ายึดครองปักกิ่ง หลังจากที่เอาชนะกองทัพจีนคณะชาติในสงครามกลางเมืองครั้งใหญ่
ค.ศ.1966-1976 เหมาเจอตง ดำเนินการ “การปฏิวัติวัฒนธรรม” เพื่อนำพรรคคืนสู่รากฐานและฟื้นฟูอำนาจที่อ่อนลงของตน ทำให้จีนกระโจนเข้าสู่กลียุค
ค.ศ.1978 เติ้ง เสี่ยวผิงเริ่มผลักดันนโยบายที่ถอยห่างจากอุดมการณ์ลัทธิคอมมิวนิสต์ เปิดประเทศยอมรับ “ระบบตลาด” ทำให้เศรษฐกิจจีนเริ่มขยายตัวอย่างมหัศจรรย์
ค.ศ.1989 รูปนักศึกษาเดินขบวนประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยบริเวณจัตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งนำไปสู่การปราบปรามกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยอย่างนองเลือด หลายชาติคว่ำบาตร โต้ตอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนครั้งนี้ของจีน
ค.ศ. 2001 เจียงเจ๋อหมิน เลขาธิการพรรคฯในขณะนั้น สนับสนุนกลุ่มนักธุรกิจเข้าสู่พรรคฯ นับเป็นการถอยห่างจากอุดมการณ์ลัทธิคอมมิวนิสต์ไกลออกไปอีก
การประชุมสมัชชาใหญ่ผู้แทนทั่วประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 17
การประชุมนี้คืออะไร: คือการประชุมของสมาชิกชั้นนำของพรรคคอมมิวนิสต์ จากทั่วประเทศ ผู้แทนเหล่านี้จะมารวมตัวกันเพื่อกำหนดทิศทางการนำประเทศในอีก 5 ปีข้างหน้า และเลือกกลุ่มผู้นำระดับสูงสุดอย่างเป็นทางการ
ความสำคัญในปีนี้: ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนอีกสมัย กำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศ ที่มุ่งแก้ไขปัญหาด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เป็นผลพวงจากการพัฒนาเศรษฐกิจ 30 ปีที่ผ่านมา และการประชุมสมัชชาใหญ่ผู้แทนทั่วประเทศพรรคฯครั้งที่ 17 นี้ ยังถูกมองว่าเป็นเวทีของประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ที่จะเคลื่อนไหวขจัดปรปักษ์ และดึงพันธมิตรเข้าสู่องค์กรอำนาจสูงสุด รวมทั้งการวางตัวทายาทที่จะสืบทอดตำแหน่งแทนหู ในปี 2012
ระเบียบวาระการประชุม: หูจิ่นเทา จะทบทวนการทำงานที่ผ่านมาของรัฐบาล และจะผลักดันนโยบายของตนในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ พร้อมกันนี้ ในที่ประชุมสมัชชาฯจะมีการคัดเลือกคณะกรรมการกลางพรรคฯ ซึ่งจะเป็นผู้คัดเลือกคณะกรรมการกรมการเมืองหรือ โปลิตบูโร ผลการคัดเลือกจะประกาศในวันสุดท้ายของการประชุมฯ
คณะผู้แทน: ผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์ทั่วประเทศชุดใหม่จำนวน 2,217 คน ได้รับเลือกเข้าสู่สมัชชาใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้ารัฐบาลระดับสูงระดับชาติ มณฑล และท้องถิ่นต่างๆ และผู้นำตำแหน่งต่างๆในพรรค เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ในวิสาหกิจรัฐ และอีก 28% เป็นผู้แทนในระดับรากหญ้า เช่น คนงาน แพทย์ เกษตรกรชาวนา อาจารย์ อันเป็นความพยายามของพรรคฯที่ต้องการแสดงออกถึงความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น
ระยะเวลา: ราว 1 สัปดาห์
การประชุมสมัชชาใหญ่ผู้แทนทั่วประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งสำคัญในอดีต
การประชุมสมัชชาใหญ่ฯพรรคฯครั้งที่ 1: จัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ ปี 1921 มีผู้แทนทั้งสิ้น 13 ราย ซึ่งมีเหมาเจ๋อตงรวมอยู่ด้วย รับรองงานการนำของพรรคฯอย่างเป็นทางการ
การประชุมสมัชชาใหญ่ฯพรรคฯครั้งที่ 7: จัดขึ้น ณ เมืองเหยียนอัน ปี 1945 โดยเมืองแห่งนี้เป็นฐานที่มั่นกองทัพแดงของพรรคฯในช่วงสงครามต่อต้านญี่ปุ่นและสงครามปฏิวัติปลดปล่อยประเทศในอดีต การประชุมฯครั้งนี้ แต่งตั้งเหมาเจ๋อตงเป็นหัวหน้าพรรคคุมอำนาจเบ็ดเสร็จ และรับรองแนวคิดของเหมาฯเป็นทฤษฎีของพรรคฯ
การประชุมสมัชชาใหญ่ฯพรรคฯครั้งที่ 12: จัดขึ้น ณ กรุงปักกิ่ง ปี 1982 ในครั้งนี้ เติ้งเสี่ยวผิงได้ผลักดันแนวคิดของตนพาจีนก้าวเข้าสู่ทุนนิยม ซึ่งถอยห่างจากอุดมการณ์ลัทธิเหมา
การประชุมสมัชชาใหญ่ฯพรรคฯครั้งที่ 16: จัดขึ้น ณ กรุงปักกิ่ง หูจิ่นเทาเข้าดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดพรรคฯอย่างเป็นทางการ แทนเจียงเจ๋อหมิน แต่เจียงเจ๋อหมินก็ยังรักษาเก้าอี้พันธมิตรของตนอยู่ในองค์กรอำนาจสูงสุดโปลิตบูโร.