หนังสือพิมพ์สากล – ในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการปรับค่าแรงขั้นต่ำขึ้นเป็นระยะๆ โดยหลังจากที่เซี่ยงไฮ้และกว่างโจวได้ปรับไปแล้ว ล่าสุดเมืองเซินเจิ้นก็ประกาศปรับค่าแรงขั้นต่ำขึ้นเป็น 850 หยวนต่อเดือนแซงหน้าเซี่ยงไฮ้ขึ้นมาเป็นเมืองที่มีค่าแรงขั้นต่ำสูงสุดในประเทศจีน
รัฐบาลท้องถิ่นเมืองเซินเจิ้น ได้ประกาศเมื่อวันจันทร์ (8 ต.ค.) ให้มีการปรับค่าแรงขั้นต่ำในเมืองเซินเจิ้นทั้งในและนอกเขตเศรษฐกิจพิเศษ ให้อยู่ที่ 850 หยวน (ราว 3,825 บาท) และ 750 หยวน (ราว 3,375 บาท) ต่อเดือนตามลำดับ หรือปรับขึ้น 4.9% และ 7.1% และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป
เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา เซี่ยงไฮ้ก็เพิ่งประกาศปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 12% เป็น 840 หยวน (ราว 3,780 บาท) ต่อเดือน จนได้กลายเป็นเขตที่มีอัตราค่าแรงขั้นต่ำสูงที่สุด ทว่าการปรับของเซินเจิ้นในครั้งนี้ เท่ากับแซงหน้าเซี่ยงไฮ้ขึ้นมาเป็นเมืองที่มีอัตราค่าแรงขั้นต่ำสูงที่สุดแล้ว
จากการให้สัมภาษณ์ของนักธุรกิจไต้หวันในเซินเจิ้นรายหนึ่งได้ระบุว่า “ ที่ผ่านมาเซินเจิ้นปรับค่าแรงขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 2 หลักเสมอ การที่ในปีนี้ปรับไม่ถึง 10% เชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะ 2 ปีที่ผ่านมานั้นการปรับค่าแรงขั้นต่ำได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักธุรกิจไต้หวันและฮ่องกงจนต้องย้ายกิจการไป และแม้ปีนี้จะปรับไม่มาก แต่ก็ยังสามารถสร้างความกดดันให้กับนักธุรกิจอยู่”
ใน 5 ปีที่ผ่านมา เซินเจิ้นมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำสะสมมากกว่า 40% โดยเฉพาะในปี 2005-2006 ที่ขึ้นมากที่สุดที่ 13.1% และ 17.4% ตามลำดับ
จากสถิติได้ชี้ให้เห็นว่า ในช่วง 2 ปีมานี้ ค่าแรงขั้นต่ำของแต่ละท้องที่ในประเทศจีนพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เห็นได้จากปี 2006 ที่ตัวเลขของเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมแม่น้ำจูเจียง กับเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมแม่น้ำฉางเจียง (แยงซีเกียง)ที่เพิ่มขึ้นมาก เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว (กวางเจา) เมื่อไม่นานมานี้ก็ปรับขึ้น 12% กับ 14% ตามลำดับ ซึ่งนับว่าเป็นการปรับที่สูงที่สุดในประเทศ
ทั้งนี้ ในปัจจุบันค่าแรงขั้นต่ำสูงสุดในประเทศจีนได้แก่เขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว และปักกิ่ง โดยอยู่ที่ 850 หยวน 840 หยวน 780 หยวน และ 730 หยวนตามลำดับ